เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวแก๊งเงินกู้ 3 คน ที่เก็บเงินโหดพังร้านส้มตำเย้ยกฎหมาย!
จากกรณีที่ คนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณข้างร้านขายส้มตำแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.6 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท มูลเหตุมาจากเจ้าของร้านกู้เงินนอกระบบยอดประมาณ 30,000 บาท ปัจจุบันได้ทยอยส่งไปแล้ว เงินต้นเหลือประมาณ 20,000 กว่าบาท แล้วไปทำการลงทะเบียนแก้ไขหนี้นอกระบบ แต่เจ้าหนี้เกิดแค้น จึงมาพังร้าน ซึ่งเคสนี้ทาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งให้รีบจับกุมดำเนินคดีทั้งแก๊ง หลังจากได้รับรายงานการทวงหนี้โหดที่จังหวัดชัยนาท พร้อมเรียกผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ภาค 2 และ ภาค 3 ที่ดูแลในพื้นที่ให้มารับนโยบายว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ถือเป็นการท้าทาย เจ้าหน้าที่ต้องจัดการให้เด็ดขาดและสาวถึงต้นตอให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.สรรคบุรีนั้น สามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 คน เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา
ล่าสุดเวลา 08.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. 66 พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.ชัยนาท เดินทางมายัง สภ.สรรคบุรี ร่วมแถลงข่าวจับกุมคนร้าย 3 คน คือนายไตรภพ กาฬภักดี อายุ 28 ปี ชาว อ.เนินขาม จ.ชัยนาท และนายนิรุต เอี่ยมศรี อายุ 24 ปี ชาวอ.หันคา จ.ชัยนาท ที่ก่อเหตุพังร้านส้มตำ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุและหมวกกันน็อค 1 ใบ พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์จากการขยายผลสามารถจับกุม นายธีระศักดิ์ วีระนนท์ หรือแมว เป็นนายทุนอยู่เบื้องหลังได้ในบ้านพักพื้นที่ อ.หันคา จ.ชัยนาท
พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 เผยว่าขอให้ลูกหนี้ทุกคนที่จะมาเข้าสู่ระบบ มั่นใจในกระบวนการ และมาตรการของทางรัฐบาล ที่จะมีการจัดการให้ลูกหนี้มีศักยภาพที่สามารถชำระเงินได้ ขอให้มาเข้าสู่ระบบจะไม่เกิดความเดือดร้อนหากมีความผิดปกติกลัวว่าไม่ปลอดภัยก็มาแจ้งตำรวจได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอันตรายแต่อย่างใดเพราะนี้เป็นวาระที่ทางรัฐบาลได้กำชับมาแล้ว
