เศรษฐา​ เปิดไทม์ไลน์​แก้หนี้ ลั่น​เป็นผู้นำ เสียกำลังใจ-สมาธิ​ไม่ได้

20 พ.ย. 66

 

เศรษฐา​ เปิดไทม์ไลน์​แถลง​แก้หนี้นอกระบบ 28 พ.ย.​ ในระบบ​ 12 ธ.ค.​ เมินกระแสวิจารณ์​ดิจิทัล วอ​ล​เล็ต​ ลั่น​เป็นผู้นำเสียกำลังใจ-สมาธิ​ไม่ได้ 

วันที่ 20 พ.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า วันนี้ได้หารือร่วมกับนายผยง ศรีวนิช ประธานธนาคารสมาคมธนาคารไทย โดยได้มีการพูดคุยถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงผู้บริหารกระทรวงคลังถึงมาตรการต่างๆ เช่นมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวแพคเกจใหญ่ที่จะเข้าคณะรัฐมนตรี มาตรการภาษีระยะยาวอีกหลายมาตรการที่ยังคุยค้างกันอยู่ เมื่อถึงเวลาเหมาะสมจะแจ้งให้ทราบ 

และเรื่องใหญ่ที่มาคุยกันวันนี้คือ การแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งหมด ที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ หนี้นอกระบบกับหนี้ในระบบ โดยหนี้นอกระบบวันที่ 28 พ.ย.นี้ จะมีการแถลงแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการ สำหรับหนี้ในระบบจะมีการคุยกับทีมงานทั้งหมดจะมีการแถลงในวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 14.00 น. โดยครบทั้งระบบของการแก้ไข และยังมีการบ้านใหม่ๆให้หลายคนได้ทำ 

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับความเห็นกรณีนิด้าโพลเป็นการสะท้อนข้อเท็จจริงทั้ง 2 ส่วน บางส่วนก็อยากให้มีกันแจกเงินดิจิทัล และก็มีบางส่วนไม่อยากให้แจก ตอนนี้เรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ก็อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และได้มีการพูดคุยถึงตัวเลข GDP ของไทยที่ออกมาวันนี้ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ ได้มีการประเมินว่าคู่แข่งของไทยต่ำที่สุดก็แค่ร้อยละ 3.3 เช่น  อินโดนีเซีย เวียดนาม เติบโตได้ประมาณร้อยละ 5  ซึ่งโตเป็น 3 เท่าของประเทศไทยโดยประมาณ เป็นเรื่องของการตีความว่าเศรษฐกิจวิกฤตและจำเป็นที่จะต้องมีดิจิทัลวอลเลตหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลได้มีการแถลงไปแล้ว แต่ก็ต้องยังคงมีการรับฟังต่อไป เพื่อที่จะได้ดำเนินการต่อ ซึ่งมองว่าเวลานี้การเป็นผู้นำประเทศต้องแก้ไขในหลายภาคส่วน ไม่มีการเสียสมาธิ และไม่มีการเสียกำลังใจ จะเอามาเป็นข้ออ้างในการทำงานไม่ได้ วันนี้ก็จะทำงานต่อเนื่อง 

"ตำแหน่งผู้นำประเทศ​ อยู่ในตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบที่สูง​ มีหลายภาคส่วนที่ต้องดูแลแก้ไข​ปัญาหา​ เสียสมาธิเสียกำลังใจคงไม่มี คงไม่มีสิ่งที่จะเสียกำลังใจเสียสมาธิ เพราะจะเป็นข้ออ้างไม่ได้ที่จะไม่ทำงาน วันนี้ก็ทำงานอย่างเดียว ไม่เสียกำลังใจครับ​ ไม่เสียสมาธิครับ" นายเศรษฐา กล่าว 

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยืนยันรัฐบาลทำงานเต็มที่ เข้าใจความลำบากของพี่น้องประชาชนในการลดค่าใช้จ่ายให้การประชุมคณะรัฐมนตรีทุกครั้งก็มีมาตรการออกมาช่วยดูแล ซึ่ง GDP ที่ประกาศวันนี้ต่ำกว่าประมาณการ จากร้อยละ 2 เหลือเพียงร้อยละ 1.5 ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากเป็นการสะท้อนว่าอาจต้องออกมาตรการเร่งด่วนบางประการ และเป็นการยืนยันว่าเศรษฐกิจวิกฤตจริง 

เมื่อถามว่า ไม่เกินความสามารถของนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ปฏิเสธการตอบคำถาม ก่อนที่จะยิ้มและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ในทันที

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม