เปิดใจคนส่งเสี่ยแป้งขึ้นเขา ยันบริสุทธิ์ไม่รู้ว่าเป็นนักโทษ

15 พ.ย. 66

เปิดใจชาวบ้านพา เสี่ยแป้ง ขึ้นเขา พกปืนสงคราม 2 กระบอก มีสายน้ำเกลือที่มือ ยันตนบริสุทธิ์ใจ เพราะรู้จักในชื่อ บ่าวและอ้างเป็นตำรวจ ถ้ารู้ว่าเป็น นักโทษ แหกคุกคงไม่ช่วย

วันนี้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้รับการเปิดใจจากครั้งแรกจาก “นายเชียน” บุคคลที่ขี่รถ จยย.พา เสี่ยแป้ง ไปส่งที่ขนำของ นายพริก หมู่บ้านตระ โดยเจ้าตัวบอกว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจและแก้ข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาตนหลับไม่สนิทเลยสักคืน เนื่องจากข่าวที่ออกไปหลายประเด็นไม่ใช่เรื่องจริงและกังวลเรื่องความปลอดภัยด้วย

โดยเล่าว่าตัวเองรู้จักกับ เสี่ยแป้ง ตั้งแต่ปี 2564 ตอนนั้นเขาบอกว่าชื่อ บ่าว และเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของตำรวจภูธรภาค 8 ตนก็เชื่อเพราะทุกครั้งที่เข้ามาที่นี่จะพกอาวุธปืนมาด้วย 2 กระบอก เป็น M16 กับ HK และมีท่าทางน่าเชื่อถือ น่าเกรงขาม บ่อยครั้งจะจ้างให้ตนช่วยขี่รถ จยย. พาขึ้นไปบนหมู่บ้านตระ ให้ค่าจ้างครั้งละ 500 บาท บางครั้งก็จ้างให้ตนช่วยขนเหล็กขนอุปกรณ์ก่อสร้างขึ้นไปที่ขนำด้านบน แต่ไม่ได้ช่วยสร้างบ้าน และตนก็ทำอาชีพรับจ้างพาคนขึ้นหมู่บ้านตระอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่แค่กับ เสี่ยแป้ง

และ นายเชียน เล่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลบหนีขึ้นหมู่บ้านตระของ เสี่ยแป้ง โดยเล่าว่าเวลาประมาณ 04.00 ของวันที่ 22 ตุลาคม 2566 ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านกับภรรยาและลูกชาย ก็มีคนมาเคาะประตูบ้านเสียงดังมากหลายครั้ง ตนก็ลุกขึ้นมาเปิด พบว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือ เสี่ยแป้ง ที่ตนรู้จักในชื่อ “นายบ่าว” ตอนนั้นก็รู้สึกแปลกใจเพราะเขาไม่ได้มาหานาน 2 ปีแล้ว

โดยการแต่งกายของ เสี่ยแป้ง คืนนั้นคือสวมเสื้อยืดสีดำ มีเสื้อคลุมแขนยาวสีดำและนุ่งกางเกงวอร์มสามส่วนสีดำ ไม่สวมหมวกและอุปกรณ์ปกปิดใบหน้า ไม่มีเครื่องพันธนาการใดๆ ไม่แน่ใจว่าสวมรองเท้าอะไร แต่เห็นชัดเจนคือสะพายปืน 2 กระบอกคือ M16 กับ HK และเหลือบไปเห็นว่ามีรถกระบะไททันสีขาวขับมาส่ง เพราะจอดอยู่ริมถนนหน้าบ้านตน

แล้วตอนนั้น เสี่ยแป้ง ก็บอกกับตนว่า ไปส่งผมที่ตระหน่อย ตนก็บอกว่า "ดึกมากแล้วนะ รอพรุ่งนี้เช้าได้ไหม? " เขาก็บอกว่า “ไปเลย ไปตอนนี้” ด้วยท่าทางที่รีบร้อน ซึ่งเป็นอาการปกติของเขา

ด้วยความที่ตนยังเข้าใจว่าเขาคือ “นายบ่าว” และตอนนั้นยังไม่มีข่าวออกว่าเกิดอะไรขึ้น บวกกับเข้าใจว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีพฤติกรรมเหมือนคนมีพิรุธใดๆ ก็เลยรับปากแล้วตอบไปว่า “ไปก็ไป”

หลังจากนั้น “เสี่ยแป้ง” ก็กลับไปขึ้นรถกระบะ บอกว่าให้ไปเจอกันที่สามแยกทางเข้าน้ำตกโตนตก ส่วนตนก็ขี่รถ จยย. ตามไปเพียงลำพัง 1 คัน พอตนขี่ไปถึง “เสี่ยแป้ง” ก็ลงจากรถกระบะมานั่งซ้อนท้ายรถ จยย. ของตนและตนไม่เห็นว่าภายในรถกระบะมีใครอยู่บ้าง เพราะหลังจากตนขี่รถเข้าไปน้ำตกโตนตก รถกระบะคันนั้นก็ขับออกไปทันที

ระหว่างทางที่ตอนขี่พา “เสี่ยแป้ง” ขึ้นไปยังหมู่บ้านตระ เหลือบไปเห็นสายน้ำเกลือที่ยังติดอยู่บริเวณมือของ “เสี่ยแป้ง” จึงหันไปถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมใส่สายน้ำเกลือ ทำไมไม่ถอดออก” เขาก็ตอบกลับมาว่า “ช่างมัน ไม่เป็นไร” ยอมรับว่าวินาทีนั้นเริ่มเอะใจ

จนกระทั่งไปถึงขนำของ “เสี่ยแป้ง” ก็ได้รู้ความจริง เพราะ “เสี่ยแป้ง” พูดคุยเชิงโม้โอ้อวดกับ “นายพริก” ว่า “กูสะบัดโซ่มา” ตนก็เลยถามไปว่า “ไหน เป็นยังไง” เขาก็บอกสั้นๆว่า “มีคนซื้อกุญแจมาให้ แล้วผมก็ไขออกมาเอง” หลังจากนั้นตนเริ่มไม่สบายใจ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ขนาด “เสี่ยแป้ง” ชวนให้ตนนั่งดื่มกาแฟด้วยกันก่อน ตนยังปฏิเสธเลย ใช้เวลาอยู่บนนั้นประมาณ 15 นาทีแล้วก็รีบขี่รถ จยย.ลงมาที่บ้าน ถึงบ้านที่ควนไม้ดำประมาณ 05.00 น. โดยที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างใดๆ และไม่รู้ว่าพวกเขาวางแผนจะทำอะไรกันต่อ ส่วนสีหน้าท่าทางของ “เสี่ยแป้ง” ตลอด 15 นาทีนั้นก็ดูปกติ เรียบเฉยมาก ไม่ได้ดูอึมครึมเหมือนคนหนีความผิด ร่างกายก็ดูแข็งแรงสมบูรณ์

ยอมรับว่าคืนนั้นนอนด้วยความอึดอัดใจมาก ยังไม่กล้าบอกภรรยา จนกระทั่งตอนเช้าภรรยาเห็นจากข่าว แล้วมาถามกับตนว่า “เสี่ยแป้ง” ในข่าวกับ “นายบ่าว” คนเมื่อคืนที่มาเคาะประตูใชคนเดียวกันหรือไม่ ตนก็เลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับภรรยาฟัง และต่างพากันเครียดไปหมด ทำอะไรไม่ถูก พยายามหาอะไรทำให้เหนื่อยจนหลับไปวันๆ ครั้นจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็กลัวเรื่องความปลอดภัยหากสมุนของ “เสี่ยแป้ง” รู้ ก็เลยเก็บความลับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่มาเชิญตัวไปสอบปากคำ ตนก็เล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดอย่างที่เล่ากับอมรินทร์ทีวีวันนี้

และแม้ว่าวันนี้ ตนจะเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและไม่ได้ถูกแจ้งข้อหาอะไรทั้งสิ้นแล้ว ก็ยังรู้สึกเครียดเพราะยังไม่สามารถไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” ได้ นอนไม่หลับสักคืน พยายามหลบหน้าสื่อเพราะเดาไม่ถูกว่าจะเกิดอะไรกับตนบ้าง

ท้ายที่สุด “นายเชียน” ยืนยันกับอมรินทร์ทีวีอีกครั้งว่า ตนไม่รู้ว่าวันนั้นที่ขี่รถ จยย.พา “เสี่ยแป้ง” ขึ้นไปบนหมู่บ้านตระ จะเป็นเหตุการณ์ที่เขาหนีออกจากโรงพยาบาล เพราะถ้ารู้ว่าเป็นแบบนั้นก็คงไม่เข้าไปยุ่งหรือให้การช่วยเหลือ เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดมาก แล้วจนถึงตอนนี้ตนก็แทบจะไม่โผล่ไปยังบริเวณทางขึ้นหมู่บ้านตระเลย เพราะกังวลมาก.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส