เพื่อนรุ่นน้องคว้า อีโต้ ฟันหัวลุง 64 ดับคาที่นอน หลังโมโหที่ขอ เหล้า กินไม่ได้
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.15 น. พ.ต.ท.นิรัน ทะวะระ สว.(สอบสวน) สภ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย เหตุเกิดหมู่ 14 ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวสภาพเก่าไม่มีรั้ว ติดริมถนนสายบ้านม่วง - คอนสาย ภายในบ้านพบศพ นายสุวิชัย มงคลดี หรือ สิด ตัวลาย อายุ 64 ปี ชาวบ้านม่วง ต.คอนสาย นอนเสียชีวิต อยู่หน้าประตูห้องนอน สภาพศพมีบาดแผลถูกอาวุธมีดที่บริเวณศีรษะด้านหลัง เป็นแผลลึกจนเห็นกะโหลก เลือดไหลนองแห้งกรังเต็มพื้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง โดยมีนายไชยยัน พรพัด อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน นอนอยู่ห้องโถงหน้าบ้านถัดมาประมาณ 4 เมตร
จากการสอบถามนายไชยยัน เจ้าของบ้านที่ป่วยเป็นโปลิโอ พิการเดินไม่ได้ ทราบว่า ผู้ตายเป็นเพื่อน มาขออาศัยอยู่ที่บ้านด้วย อยู่กันเพียง 2 คน ผู้ก่อเหตุคือนายเชียรชัย งามหนัก หรือเชียร อายุ 51 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เป็นคนลงมือฆ่านายสุวิชัย หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปที่บ้านตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงตามไปรวบตัวเอาไว้ และยังอยู่ในอาการมึนเมา พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นมีดอีโต้ ยาวประมาณ 1 ฟุต ไม่มีด้าม และรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ก่อนควบคุมตัวไปที่โรงพัก
นายเชียรชัย ปฏิเสธการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และให้การเพิ่มเติมว่าสาเหตุที่ทำลงไป เพราะทะเลาะกันในวงเหล้า ผู้ตายพูดจาไม่เข้าหู ด่าทอตน ตนจึงโมโหเลยใช้มีดอีโต้ที่พกมาฟันหัวไป 1 ครั้ง ก่อนหน้านี้ตนออกไปหาปลาที่ทุ่งนา กำลังจะผ่านไปบ้านตัวเอง เห็นเพื่อนนั่งกินเหล้าอยู่ จึงแวะหา ก่อนมาปากเสียงและลงมือทำร้ายกัน หลังจากนั้นตนก็กลับบ้านทันที เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าว “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปจุดเกิดเหตุ พบกับนายไชยยัน เจ้าของบ้าน ก่อนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ประมาณ 11.30 น. ตนนอนเล่นอยู่บ้านคนเดียว คนตายออกไปช่วยเพื่อนบ้านเอาข้าวขึ้นเล้า ต่อมาคนตายได้เข้ามานอนที่บ้านด้วยอาการเมา ประมาณ 5 นาที นายเชียร ก็ตามมาที่บ้าน ตอนแรกเขาก็พูดคุยกันดีตามปกติ สักพักก็ได้ยินนายเชียรตะโกนด่าคนตาย แล้วบอกว่า กูจะฟันมึง สักพักก็เงียบเสียงไป แล้วนายเชียรก็เดินกลับไป ตนนึกว่าไม่มีอะไร คิดว่าคงทะเลาะกันตามปกติ จึงไม่ได้ใส่ใจไปดูคนตาย คิดว่าคงเมาหลับไปก็เท่านั้น กระทั่งช่วงค่ำนายแหล่ เพื่อนในกลุ่มอีกคนได้เดินมาเล่นด้วย จึงเดินไปดูคนตาย ก็พบว่าหมดลมและตัวแข็งไปแล้ว จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ
“สาเหตุที่เขาทะเลาะกันและฆ่ากัน ตนคิดว่ามาจากการหวงเหล้า นายเชียรมาขอเหล้าคนตายกิน แต่คนตายไม่ให้ ตนเองเป็นโปลิโอตั้งแต่เด็ก แต่ก่อนเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ที่นี่เคยเปิดเป็นร้านซ่อมรถ ตนเคยมีครอบครัว แต่แยกทางกันไปแล้ว มีลูก 2 คน นานครั้งลูกจะมาหา พักหลังตนไม่มีเรี่ยวแรงจึงปิดร้านซ่อมรถ ต่อมาคนตายได้มาขออาศัยอยู่ด้วย ตนจะนอนหน้าบ้าน เขาจะนอนกลางบ้าน ไม่ได้เข้าไปนอนในห้อง นอนอยู่ด้วยกันมาประมาณ 2 ปีแล้ว ก็ขอให้เพื่อนไปดี”
นางสุรทิน เชิญชม อายุ 67 ปี ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่เห็นเหตุการณ์ เพิ่งจะรู้ข่าวตอนเช้า บ้านหลังนี้เป็นจุดมั่วสุม มีคนมาล้อมวงกินเหล้ากันอยู่เป็นประจำ นายไชยยัน ก็ไม่ได้ทำงานอะไรแล้ว คนตายจะเป็นคนไปขอข้าววัดมาให้กิน เขาจะนอนอยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนกินเหล้ากัน นายเชียรจะเป็นคนเสียงดังโพงพาง เมาแล้วมักจะหาเรื่องคนอื่น คนตายไม่ค่อยมีเงิน นายเชียรทำงานรับจ้างมาก็จะซื้อเหล้ามากิน นายเชียรมักจะบอกว่าคนตายไม่ทำงานแต่มาขอเหล้ากิน แต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าใครขอเหล้าใครกิน จึงเกิดเรื่องขึ้น
ด้านนางดารา อดีตภรรยาคนตาย เล่าว่า เลิกกับคนตายมานานหลายปีแล้ว เพราะติดเหล้า กินแต่เหล้า ตอนนี้ตนมีครอบครัวใหม่แล้ว แต่ก็อาศัยอยู่ในตำบลเดียวกัน ไม่เคยข้องแวะกัน ญาติพี่น้องเขาก็ไม่มีใครเอา วันนี้ลูกชายจึงชวนมารับศพด้วย ตั้งใจว่าจะเผาที่วัดในเมืองอุดรฯ แล้วจะนำกระดูกไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน สาเหตุไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร คนฆ่าก็ขอให้รับโทษตามกฎหมาย
นายฉัตรชัยฯฃ ลูกชายคนตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองมีครอบครัวแยกไปอยู่กับภรรยาที่หมู่บ้านอื่น ไม่ค่อยได้คุยกับพ่อ แต่ก็รู้ว่ามาอาศัยหลับนอนอยู่ที่บ้านเกิดเหตุ หมู่บ้านนั้นมีแต่ญาติพี่น้องพ่อ ตนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เขามักจะกินเหล้าอยู่ที่นั่นกับเพื่อนประจำ วันนี้มาเกี่ยวข้าวช่วยแม่ หลังกินข้าวเย็น กำลังจะพักผ่อน มีคนมาบอกว่าพ่อถูกฟันเสียชีวิต ตนจึงรีบไปดู ก็เห็นพ่อนอนตายจมกองเลือด ตกใจและเสียใจมาก ทำได้แค่ยืนร้องไห้ คนก่อเหตุเป็นคนบ้านเดียวกัน เขาเคยมีปัญหากัน คนก่อเหตุมักจะหาเรื่องคนอื่น อยากให้เขาติดคุก อยากให้เขาถูกประหารชีวิต ตนจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด.
