สายไหมต้องรอด พาชาว พม่าเข้าร้องทุกข์หลังโดนเจ้าหน้าที่ ตำรวจ รุมซ้อม รีดไถ่เงินกว่า 1 แสนบาท
จากกรณีชาวพม่าถูกตำรวจสายตรวจโรงพักแห่งหนึ่ง รุมซ้อม รีดไถ่เงินกว่า 1 แสนบาท สายไหมต้องรอดยื่นเรื่อง ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์นั้น นายเอกภพ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายพึ่งมาร้องเรียนกับตนเมื่อวานนี้ เขาก็ไม่กล้าจะไปพึ่งพาใคร เพราะกลัวโดนดักทำร้าย กลัวตำรวจจะเข้าข้างกัน และกลัวคนไทยไม่ช่วยเหลือ ตนจึงให้คำยืนยันว่าจะไม่มีใครปกป้องคนผิด
ผู้เสียหายเล่าว่าเขากับเพื่อนรวม 3 คน ทำงานที่เขตบางนา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนมีเพื่อน คนหนึ่ง ต้องการไปหาแฟนที่ บ่อวิน จ.ชลบุรี โดยนายมะเด เป็นเจ้าของรถยนต์ เมื่อไปถึงที่อพาร์ตเมนต์แฟนสาวของเพื่อน พบว่ามีตำรวจสายตรวจในเครื่องแบบ 2 นาย มาดักรอตรวจสอบขอดูเอกสาร ผู้เสียหายกำลังหยิบให้ดูแต่ตำรวจก็ไม่ทันได้ดู มีการพยายามเร่งรัดให้ทั้งหมดนั้นเดินทางไปที่สถานีตำรวจ
โดยตำรวจสายตรวจในเครื่องแบบหนึ่งนายได้ขึ้นมานั่งบนรถยนต์ของผู้เสียหาย ขณะที่ตำรวจสายตรวจอีกหนึ่งนาย ขี่รถจักรยานยนต์ตำรวจนำหน้าพาไปที่สถานีตำรวจภูธรบ่อวิน เมื่อไปถึงก็พาทั้งหมดเข้าห้องสอบสวน
ซึ่งระหว่างนั้นตำรวจสอบถาม พร้อมตรวจเอกสาร ก่อนแยกตัวทั้งหมดไปสอบสวน โดยพยายามเค้นหาความผิด ซึ่งเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากนายมาเด ที่เล่าให้ตำรวจฟัง ซึ่งบอกว่า “ขับรถยนต์มาส่งเพื่อนเพื่อหาแฟนสาว” ตำรวจบอกถือว่าการกระทำนั้นมีความผิด เหมือนทำหน้าที่เป็นแท็กซี่ขนส่งคนแบบผิดกฎหมาย ซึ่งผู้เสียหายก็พยายามถกเถียง และยืนยันว่าเป็นเพื่อนกันไม่ได้รับจ้างขนส่งเป็นแท็กซี่
แต่ตำรวจบอกว่าไม่ได้ มันผิด จึงโต้เถียงกัน จนนายมะเด ยืนยันว่า “รู้กฎหมายไทย เขาไม่ผิด” จึงทำให้ตำรวจโมโห และทำร้ายก่อนเช็คมือถือนายมะเด ว่ามีเงินอยู่เยอะ จึงขู่รีดเอาเงิน โดนให้ ทั้ง 3 คนร่วมเงินมาจ่าย แบบเหมาจ่าย 100,000 บาท
อย่างไรก็ตามตนฝากถึงตำรวจว่า สิ่งที่คุณกระทำมันคือความผิด คุณอย่าลืมว่าตอนนี้โลกมันไปไกลแล้ว กฎหมายไทยให้ความคุ้มครองแรงงาน สิ่งที่ทำจะเกิดความเสียหายกับประเทศด้วย ตนจึงช่วยเหลือพวกเขา เพื่อไม่ให้พวกคุณไปกระทำแบบนี้กับแรงงานต่างชาติอีก
