พระขับรถเก๋งฝ่าสายฝนมุ่งหน้าไปทำธุระรถ เกิดเสียหลักหมุนข้ามเลนถูกกระบะที่ขับสวนมาพุ่งชนอย่างจัง พระสงฆ์มรณภาพ 2 รูป และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 รูป
เมื่อเวลา 13.10 นาฬิกา วันที่ 4 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไทรโยครับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกับรถยนต์เก๋ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณโค้งบ้านพุมุดหมู่7 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระปิยะมหาราชรมณียเขตเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน บบ 7684 สระแก้ว พุ่งชนอัดติดอยู่กับรถยนต์เก๋งฮอนด้าสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กท7501 นครสวรรค์ ที่ถูกชนเข้าที่กลางตัวรถฝั่งซ้ายจนพังยับเยิน ภายในรถพบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นพระสงฆ์ติดอยู่ที่บริเวณที่นั่งฝั่งคนขับ และเบาะหน้าข้างคนขับจำนวน 2 รูป และที่เบาะหลังยังพบพระสงฆ์อีก 1 รูป ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำร่างของพระรูปที่ได้รับบาดเจ็บออกจากตัวรถ และนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน
สอบถามนายปรเมสฐ์ บุญศรี อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะคันที่เกิดเหตุให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวขับรถมาเที่ยวที่อำเภอสังขละบุรี และกำลังเดินทางกลับเข้าตัวเมืองกาญจนบุรีเมื่อขับรถมาถึงบริเวณพื้นที่อำเภอไทรโยคก็มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาถึงบริเวณทางโค้งจุดเกิดเหตุจู่ ๆ รถเก๋งคู่กรณีที่ขับมาจากทางตัวเมืองมุ่งหน้าไปทางอำเภอทองผาภูมิก็เกิดเสียหลักจนรถหมุนข้ามเลนมาตัดหน้ารถของตน ทำให้ตนเบรกรถไม่ทันและพุ่งชนรถเก๋งคันดังกล่าวเข้าอย่างจังจนส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบไปยังวัดต้นสังกัดของพระสงฆ์ทั้ง 3 รูป ที่อยู่ในรถยนต์เก๋งพบว่าพระทั้ง 3 รูป ได้ขับรถออกมาจากวัดถ้ำศรีสรรเพชรในอำเภอไรโยค เพื่อจะไปทำธุระที่บริเวณช่องเขาขาด แต่คาดว่าในระหว่างกำลังขับรถฝ่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนมาถึงบริเวณช่วงทางโค้งจุดเกิดเหตุ รถอาจจะลื่นน้ำที่อยู่บนถนนจนทำให้รถเสียหลักหมุนคว้างจนข้ามเลนไปถูกรถกระบะที่ขับสวนมาพุ่งชนเข้าอย่างจัง จนทำให้มีพระสงฆ์มรณะภาพไปถึง 2 รูป และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 รูป ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รอสอบปากคำพระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งต่อไป
