วันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 25/2 หมู่ 3 ต.บ้านไร่ อ.เมืองราชบุรี หลังทราบว่ามีเรื่องปาฏิหาริย์คนตายแล้วฟื้น พบกับ ร.ต.ชิษณุเชษฐ์ ทัพพ์เดโชกิตต์ หรือจ่าโส อายุ 64 ปี อดีตนายทหารมณฑลทหารบกที่ 16 (มทบ.16) อ.เมืองราชบุรี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ที่ตายแล้วฟื้น นางหงษ์ ทัพพ์เดโชกิตต์ อายุ 63 ปี และน.ส.จิราพัชร์ ทัพพ์เดโชกิตต์ อายุ 35 ปี ภรรยาและลูกสาวของร.ต.ชิษณุเชษฐ์ สอบถามได้ความว่า เรื่องที่ตายแล้วฟื้นนั้นเกิดขึ้นกับครอบครัวของพวกตนจริง
นางหงษ์ เริ่มเล่าเรื่องราวเหลือเชื่อให้ฟังว่า เหตุเกิดวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. สามีออกกำลังกายตามปกติ โดยวิ่งบนเครื่องลู่วิ่ง จากนั้นก็ไปขุดดินที่ท่อระบายน้ำบริเวณหลังบ้าน แต่สามีขุดดินได้แค่ 2 ครั้ง ก็ตะโกนเรียกตนบอกว่าจะเป็นลมขอน้ำดื่มหน่อย ตนจึงให้หลานสาวที่อยู่ด้วยเอาน้ำไปให้ ส่วนตนไปหายาดม เมื่อออกไปพบว่าสามีนั่งนิ่งตรงบันไดหลังบ้าน ตนรีบให้ดมยาดมพร้อมกับบีบนวด และหลานสาวเอากระดาษพัดให้ความเย็น แต่สามีมีอาการกระตุก 2 ครั้ง จากนั้นตนกับหลานช่วยกันลากสามีไปนั่งบนเก้าอี้ข้างบ้าน แล้วเปิดพัดลมให้ เพราะช่วงนั้นอากาศร้อนสามีเหงื่อท่วมร่าง ตนเห็นอาการไม่ดีจึงโทรหาลูกสาว คือน.ส.จิราพัชร์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อยู่กองบริการ บช.มทบ.16 พักที่บ้านพักในค่ายทหารให้มาดูพ่อ สักพักลูกสาวกับสามีมาถึงพ่อก็แน่นิ่งไม่รู้สึกตัวจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลราชบุรี ส่วนตนอยู่เฝ้าบ้านกับหลานสาว
น.ส.จิราพัชร์ ลูกสาวที่นำตัวผู้เป็นพ่อส่งโรงพยาบาล บอกว่า พอถึงโรงพยาบาลราชบุรี รีบนำพ่อเข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นไม่นาน พ่อถูกส่งเข้าห้องไอซียู มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด พ่อนอนไม่รู้สึกตัว เวลาผ่านไปจนครึ่งวัน เห็นหมอปั้มหัวใจพ่อแต่พ่อก็นิ่งไม่ตอบสนอง ตนห่วงพ่อมากไม่รู้จะทำอย่างไร จึงเดินไปที่หน้าโรงพยาบาล เพื่อไปไหว้พระพุทธชินราชที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารเพื่อขอพรและอธิษฐานว่าขอให้พ่อหายเป็นปกติ แล้วตนก็ขึ้นมาเฝ้าพ่อต่อ โดยหมอได้ปั้มหัวใจ และใช้เครื่องช็อตไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจพ่ออีกครั้ง กระทั่งเวลา 16.00 น. พ่อมีสติ บ่นว่าหิวน้ำเมื่อพ่อฟื้นขึ้นมาทุกคนในครอบครัวดีใจมาก และพ่อก็กลับมามีอาการเกือบปกติ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกวันนี้พ่อยังขับรถไปไหนมาไหนได้ แต่คนในครอบครัวก็จะคอยเตือนพ่อ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นราวกับปาฏิหาริย์ ตนเองเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่มองไม่เห็น เรื่องของการทำความดี และการทำบุญ สร้างกุศล แต่ก็อยู่ที่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่เท่านั้น
ร.ต.ชิษณุเชษฐ์ บอกว่า ช่วงแรกที่ตนหมดสติที่บ้าน มีความรู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ และเห็นต้นไม้เป็นสีเขียวมรกต กับถ้ำมรกต จากนั้นก็ไม่เห็นอะไรอีก ต่อมาช่วงที่สองน่าจะอยู่ที่โรงพยาบาล ตนได้เห็นด้านหลังแม่ชีใส่ชุดขาวกำลังเดินจงกลม แต่จำได้ว่าคือแม่ชีแก้ว อยู่ที่วัดเขาช้างมงคลวนาราม ต.หนองกระทุ่ม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นวัดที่ภรรยาชอบไปถือศีลปฏิบัติธรรม วัดดังกล่าวมีพระ 2 รูป แม่ชี 1 รูป แยกสถานที่เป็นสัดส่วน แม่ชีแก้วจะนั่งวิปัสสนาเกือบทั้งวัน หลังจากตนเห็นแม่ชีแก้วแล้ว ก็ไม่รู้สึกอะไรอีก เพียงแต่ได้ยินเสียงภรรยากับลูกเรียกชื่อ กระทั่งมารู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาเห็นนาฬิกาที่ติดบนผนังห้องของโรงพยาบาล ตอนนั้นเวลา 16.00 น. รู้ว่านอนบนเตียง หิวน้ำมาก และเจ็บบริเวณหน้าอก คาดว่าคงเกิดจากการปั้มหัวใจ และไม่สามารถที่จะขยับร่างกายได้ ซึ่งตนพยายามจะบอกกับภรรยาที่ยืนอยู่ข้างๆว่า รับไม่ได้ ไม่อยากให้เป็นภาระกับครอบครัว แต่ตนก็พูดไม่ได้จึงพยายามสื่อสาร แต่ภรรยาไม่เข้าใจ
ส่วนอาการที่เกิดขึ้นแพทยบอกว่าเพราะเสียเหงื่อมาก ช่วงเกิดเหตุขาดออกซิเจนในเลือด ต้องฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตนเป็นแบบนี้เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการหักโหมในการออกกำลังกาย เพราะคิดว่าไหว แต่ด้วยความที่มีอายุมากจึงอาจทำให้เกิดอาการวูบหมดสติและตายไป ก่อนจะฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ อยากจะเตือนผู้ที่ชอบออกกำลังกายว่าขอให้ออกแต่พอดี อย่าหักโหมเพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนตนที่ตายแล้วฟื้น