“วราวุธ”ย้ำเบี้ยผู้สูงอายุ“ตอนนี้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม” โดยจะต้องมีการพูดคุยข้ามกระทรวงเพื่อคุยแนวทางมาตรการใหม่ ยืนยันไม่ให้ผู้สูงอายุเสียประโยชน์
“นายวราวุธ ศิลปอาชา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เปิดเผยภายหลังเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ โดยระบุว่าขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากข้าราชการและผู้บริหารของกระทรวง พม. และดีใจที่วันนี้ได้มาสานต่องานที่พ่อบรรหารและพรรคชาติไทยพัฒนาได้เคยทำเอาไว้ จากที่ก่อนหน้านี้ได้ไปดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดูแลสรรพสัตว์ทั้งบนบกและท้องทะเล วันนี้ก็ได้มาดูแลพี่น้องประชาชนทั้ง 66 ล้านคน ในหลากหลายกลุ่มทั้งกลุ่มของเด็กเยาวชน ,ผู้สูงอายุ ,กลุ่มสตรี ,กลุ่มชาติพันธ์ ,ผู้พิการ และกลุ่มหลากหลายทางเพศ LGBT+
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าปัญหาแรกที่จะเข้ามาแก้ในส่วนของกระทรวง พม. ในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวงน่าจะเป็นเรื่องใด นายวราวุธ บอกว่า ตนมองว่าคงจะไม่ใช่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะมีหลายปัจจัยทั้งปัจจัยที่ต้องมาดูแลภายในกระทรวงเอง รวมไปถึงปัจจัยภายนอกที่เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน เช่น การที่ตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่สถานะการเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะมีสังคมผู้สูงอายุกว่า 20% ,ปัญหาการเกิดต่ำ ซึ่งอาจส่งผลให้ในอนาคตเราจะขาดแรงงานหรือมันสมองที่จะมาพัฒนาประเทศ และการดึงศักยภาพของผู้พิการให้มาเป็นกำลังสำคัญของสังคมไทย
ทั้งนี้ ตนมองว่ากระทรวง พม.มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ที่จะมาพัฒนาโครงสร้างของระบบสังคมไทย ทั้งเรื่องของสถาบันครอบครัวและกลุ่มคนทุกกลุ่ม แต่ขณะเดียวกันงบประมาณที่กระทรวงพอมอได้รับก็สวนทางกับปริมาณภารกิจที่กระทรวงต้องดูแลพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ
นอกจากนี้เราเพิ่งตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งทำให้ 1 ตุลาคมนี้คงจะไม่สามารถใช้เงินงบประมาณประจำปี 2567 ได้ทัน ทำให้ภายในกระทรวง พม.ก็จะต้องเตรียมทำงบประมานประจำปี 2567 เพื่อนำเข้าสู่สภาฯในวาระต่อไปโดยเร็วที่สุด
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุซึ่งเป็นเรื่องต่อเนื่องจากรัฐบาลที่แล้ว นายวราวุธ บอกว่าขอให้พี่น้องประชาชนอย่าเพิ่งตกอกตกใจ ย้ำว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่สิ่งที่ได้ออกมาพูดถึงมาตรการต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน กระทรวง พม. ยังต้องปรึกษากับกระทรวงอื่นๆ ข้ามกระทรวง ก่อนที่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งยังต้องใช้ระยะเวลาอีกซักพักใหญ่จึงจะได้ความชัดเจน ว่าจะมีมาตรการใหม่อย่างไร
เมื่อสอบถามถึงกรณีของน้องหยกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาอย่างไรในเรื่องนี้ นายวราวุธ ระบุว่า ไม่อยากจะพูดเจาะจงเป็นกรณีใดกรณีหนึ่ง แต่มองว่าสถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แนวทางของพรรคชาติไทยพัฒนาก็คือจะเป็นการคืนลูกหลานให้กับสถาบันครอบครัว คืนครอบครัวให้กับชุมชน และคืนชุมชน กับแผ่นดินไทย ให้มีความอบอุ่นใกล้ชิดและเข้าใจถึงกลไก ของสังคมว่าเป็นอย่างไร จากนั้นได้ยกตนเป๋นตัวอย่าง ว่าก่อนที่จะเดินทางเข้าไปถวายสัตย์นั้นก็ได้กราบ คุณแม่และพี่สาวซึ่งมีพระคุณต่อตน
เมื่อสอบถามว่าภารกิจเร่งด่วนที่จะทำใน 3-6 เดือนนี้คืออะไร นายวราวุธ บอกว่าภารกิจของกระทรวง พม.เร่งด่วนเกือบทุกเรื่อง ทั้งปัญหาของอัตราการเกิดต่ำและสังคมที่เข้าสู่สถานะสังคมผู้สูงอายุ ที่จะต้องทำให้ผู้สูงอายุนำเอาประสบการณ์และวิชาความรู้มา เป็นกำลังสำคัญของสังคม โดยมีศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ เป็นแนวทางที่คิดเอาไว้ และธุรกิจการให้บริการผู้สูงอายุเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่เร่งด่วนที่จะต้องทให้เกิดขึ้นโดยเร็ว แต่คงไม่สามารถแก้ได้ภายใน 3-6 เดือนเพราะเป็นปัญหาที่ต้อง แก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง แต่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการอย่างแน่นอน
สำหรับสวัสดิการของ อพม.นายวราวุธบอกว่า อพม.เป็นหน่วยหน้าในการทำงานของกระทรวงก็จะพยายามผลักดันเพื่อให้มีค่าตอบแทนสำหรับกลุ่มคนเหล่านั้นโดยเร็ว.