ผู้เป็นแม่เครียดลูกเขยไม่มาผูกข้อมือลูกสาว น้อยใจผูกคอตายคาหน้ายุ้งข้าว
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที 6 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งจากกำนันตำบลหนองยาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ว่ามีเหตุคนเสียชีวิตอยู่ที่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 7ติดทางสามแยกบ้านหนองจิก ต.หนองยาง จ.อุทัยธานี
หลังจากได้รับแจ้ง ร.ต.อ.พจนาถ เกตุเกล้า พนักงานสอบสวน สภ.หนองฉาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พ.ต.ท.สิทธิชัย พัชรมงคลสกุล รอง สว.สส.สภ.หนองฉาง, ร.ต.ท.วรังสรรค์ จงเกษณ์กรณ์ รอง สว.สส.สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี รุดไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุบริเวณหน้ายุ้งข้าวพบศพผู้ตาย นางเพ็ญนภา ขำกรร (รัตน์) อายุ43ปี
ในสภาพศพนอนหงายอยู่ที่หน้ายุ้งข้าวชั้นบนพื้นสภาพศพสวมเสื้อแขนยาวลายเขียวเสื้อยืดในสีเขียวสวมกางเกงยีนขายาว ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีเชื้อสายไฟสีดำผูกติดกลับแปรขื่อหลังคา ที่ผนังยุ้งข้าว มีรอยเหงื่อติดผนังซึ่งเป็นของสามีที่ช่วยเหลือศพ ตรวจสอบที่พื้นดินพบรองเท้าแตะ วางกระจัดกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบรองลอยการต่อสู้
เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถาม นายสุชาติ จันทน์ผาพาด อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นสามีของผู้ตายให้การว่าตนเอง พึ่งจะอยู่กินกับผู้ตายได้แค่ 2 เดือน หลังจากนั้นผู้ตายก็มาอยู่กินอยู่กับตนเองที่บ้านเกิดเหตุ และในวันที่เกิดเหตุ ตนเองทราบว่าผู้ตายได้กลับไปบ้านที่ของผู้ตายเพื่อผูกข้อมือลูกสาว แต่ผู้ชายไม่ยอมมาผูกด้วย หลังจากนั้นผู้ตายก็กลับมาบ้านด้วยอารมณ์ที่เครียด
หลังจากนั้น ในคืนที่เกิดเหตุตนเองเห็นผู้ตายไม่นอนทั้งคืน เดินวนเวียนบ่นว่าเครียดจะไปผูกคอตาย ตนเองก็คิดว่าพูดเล่น หลังจากนั้นผู้ตายทำเสียงดังโครมครามที่หัวนอน ตนเองก็ตะโกนบอกผู้ตายว่า นี้มันดึกเกรงใจชาวบ้าน หลังจากนั้นผู้ตายได้หายไปสักพักตนเองได้ยินเสียงดังโครมที่หน้ายุ้งข้าว ตนเองมองไม่ชัดเจนเห็นผู้ตายนอนอยู่ทีพื้นดิน จึงรีบไปยิบไฟฉาย กลับมากอีกครั้งและมาเจอผู้ตายใช้สายไฟผูกคอตาย ตนเองรีบปลดสายไฟออกจากคอผู้ตายลงมาและช่วยชีวิต แต่ผู้ตายได้เสียชีวิตไปแล้ว ตนเองก็นั่งเอาหัวผู้ตายพาดตัก จนใกล้เช้าตนเองก็ตะโกนให้เพื่อนบ้านที่ขับจักรยานยนต์ผ่านมาให้แจ้งกำนันและตำรวจ ซึ่งตนเองได้พูดคุยกับลูกสาวผู้ตายแล้วว่าไม่ติดใจในการเสียชีวิตของผู้ตาย จึงขอนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
