ส.ว.กิตติศักดิ์ ยืนกรานไม่โหวต "พิธา" ฝากถึง "ด้อมส้ม"

17 ก.ค. 66

"กิตติศักดิ์" ย้ำ ไม่โหวตให้ "พิธา" แนะเปิดทางเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ชี้ ก้าวไกลไม่ถอย ก็ควรเป็นฝ่ายค้าน ด้อมส้มหยุดล่าแม่มด ส.ว. ปฏิบัติหน้าที่ตามรธน.

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึง การเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นครั้งที่ 2  ในการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่น่าเกิดความวุ่นวาย เรื่องนี้เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเรื่องถึงส.ว. ก็ปฏิบัติตามมาตรา 272 ก็เป็นอำนาจของ ส.ว.

ดังนั้นจะเสนอหรือไม่เสนอนายพิธาก็ไม่ไปก้าวก่าย แต่แน่นอนว่าเมื่อมีการเสนอชื่อนายพิธาเข้ามา ก็จะเกิดข้อถูกเถียง ซึ่งในวันนี้ การประชุมกรรมาธิการพัฒนาการเมือง น่าจะมีการพิจารณาข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ว่าญัตติที่ตกไปแล้วไม่สามารถนำกลับมาได้ในสมัยประชุมเดียวกัน แล้วถ้าวันที่ 19 กรกฎาคมยังมีญัตตินี้เข้ามา คงจะมีการประท้วงกันพอสมควร

ทั้งนี้ส.ว.จะนำข้อหารือนี้ไปหารือในวันที่ 19 กรกฎาคมเลย เพราะทราบว่า 8 พรรคร่วมฯ จะหารือกันในวันนี้ จะมีหรือไม่มีนายพิธาก็ยังไม่ทราบ ดังนั้นในวันที่ 19 กรกฎาคมน่าจะมีความชัดเจน หากมีชื่อนายพิธาก็ไปว่ากันในที่ประชุม

ส่วนถ้ามีการประชุมครั้งที่ 3 มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของฝั่งเพื่อไทยเข้ามา ส.ว.จะยกมือให้หรือไม่

นายกิตติศักดิ์ ยืนยันว่า ถ้านายพิธาไม่ได้ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทย ดังนั้นหากเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาล ต้องไม่มีพรรคก้าวไกลเท่านั้น ส่วนพรรคเพื่อไทยจะไปรวมกับใครก็แล้วแต่ ตอนนี้ตนไม่ยอมรับว่านายพิธา และพรรคก้าวไกลจะเป็นรัฐบาล

ส่วนในครั้งที่ 2 หากมีการเสนอชื่อคนอื่นด้วย ที่ถือว่าไม่ซ้ำญัตติ จะเดินหน้าไปได้โดยที่ไม่มีข้อถกเถียง ตามข้อบังคับการประชุมที่ 41 หรือไม่

นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูว่ามีชื่อก้าวไกลอยู่หรือไม่ "ก้าวไกลและเพื่อไทยไปอำเภอหย่ากันแล้วหรือยัง ถ้าหย่ากันแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีท่านอื่นมา"

อย่างไรก็ตาม หากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ทุกอย่างจะมีปัญหาทางนั้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยโดยไม่มีพรรคก้าวไกล ก็มีม็อบอยู่ดี และหากนายพิธาเข้ามาก็มีม็อบอีกเช่นกัน

เพราะฉะนั้นอยากให้ประชาชนตั้งสติ ส.ว.ปฎิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง โดยไม่มีอคติกับใครทั้งสิ้น ถ้าหากว่าพรรคก้าวไกลไม่ยอมถอยในมาตรา 112 และยังมีเรื่องนิรโทษกรรม ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ต้องคิดเพราะนั่นเป็นความขัดแย้งของประชาชนในอนาคตอันใกล้

ดังนั้น ตอนนี้เลยจุด ที่พรรคก้าวไกลจะถอยหรือไม่ถอยในเรื่องมาตรา 112 เพราะวันที่ 13 กรกฎาคมได้ชัดเจนแล้ววว่า พรรคก้าวไกลไม่ถอยแน่ๆ และด้อมส้มก็ไม่ยอมให้ถอย ดังนั้น สิ่งที่จะเป็นไปได้มากที่สุดคือ พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้อยู่ที่การตัดสินใจของ 8 พรรคร่วมฯ

นายกิตติศักดิ์กล่าวต่อว่า ความขัดแย้งของคนไทยที่มากมาย ถ้าหากสนับสนุนนายพิธาและพรรคก้าวไกล ก็จะลุยแก้มาตรา 112 และไปไกลกว่านั้นอีก คนที่เขาอยู่เงียบๆ พลังเงียบก็จะออกมาเต็มบ้านเต็มเมืองอีกเช่นกัน ดังนั้นต้องมองทั้งสองด้าน หากนายพิธาถอยออกไป สถานการณ์ก็จะเบาบางลง เเต่ทั้งหมดก็ปล่อยให้เป็นเรื่องสถานการณ์และความมั่นคงในเรื่องต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

นายกิตติศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ ในโลกโซเชียลมีการล่าแม่มดของกลุ่มส.ว. อาจจะทำให้ส.ว. หันมาหนุนนายพิธา เป็นครั้งที่ 2 ว่า การล่าแม่มด การไปข่มขู่ การทำอะไรที่ก้าวร้าวรุนแรง มันเป็นประชาธิปไตยที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยซ่อน

ดังนั้น การที่ไปรังควานส.ว. ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของส.ว. ที่จะเปลี่ยนไปมีแต่ความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะตนเอง บ้านตนมีประชาชนไปเกือบทุกวัน ถ้าด้อมส้มจะไป ตนยินดี เชิญ ตนไม่มีธุรกิจ มีนาอยู่ 10 กว่าไร่ จะได้ให้ช่วยทำนาซะเลย

เมื่อถามว่ามีที่จอดรถทัวร์หรือไม่ นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า "ไปเป็นรถไฟก็ได้ เดี๋ยวเลี้ยงข้าว"

ส่วนกระแส #ตามหาเมียน้อยส.ว. ตรงนี้หลายท่านก็กังวลเช่นกัน ส่วนตัวก็ไม่ทราบ แต่พูดเล่นกัน ใครจะทำอะไรก็ทำได้ แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ถ้าหากทำแล้วเขาเสียหาย เขาฟ้องได้ และต้องหากระเช้าไปอีก ทุกฝ่ายควรคิดและต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม