ประชาชนนับหมื่นคนต่อคิวรับเงินโปรยทาน 1 ล้านบาท ในงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตอุโบสถไม้ตะเคียนทองใหญ่ที่สุดในโลกหนึ่งเดียวในภาคอีสาน ที่วัดพุทธวนาราม
ที่วัดพุทธวนาราม หรือ วัดวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม มีพุทธศาสนิกชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ แห่เดินทางมาร่วมพิธีตัดหวายฝังลูกนิมิต และพิธีฉลองโบสถ์ไม้ตะเคียนทองที่ใหญ่ที่สุดในโลกหนึ่งเดียวในภาคอีสาน ซึ่งถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดวังน้ำเย็น โดยในงานนี้มีเจ้าภาพลูกนิมิตทั้งนักธุรกิจ ประชาชน ห้างร้านต่างๆ ศรัทธาบริจาคเงินทำบุญร่วมกันมากกว่า 100 ล้านบาท โดยเจ้าภาพใหญ่สุดที่บริจาคเงินร่วมทำบุญในครั้งนี้รายเดียวจำนวนสูงถึง 70 ล้านบาท พร้อมทั้งมีผู้ถวายเงินโปรยทานให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงานจำนวนมากถึง 1 ล้านบาทอีกด้วย
ทั้งนี้ หลังพิธีตัดหวายฝังลูกนิมิต ทางวัดได้แจ้งให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีนับหมื่นคน เข้าแถวเพื่อรับทานจากพระครูภาวนาชยานุสิฐ วิ. หรือ พระอาจารย์ออฟ และคณะเจ้าภาพ โดยทางวัดได้แลกธนบัตรแบงค์ร้อย มายืนแจกที่ประตูทางเข้า-ออกของโบสถ์ มีประชาชนค่อยๆ ทยอยรับเงินทานกันอย่างคึกคัก ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงจะแจกแล้วเสร็จครบ 1 ล้านบาท
ด้านพระครูภาวนาชยานุสิฐ วิ. ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม กล่าวว่า โบสถ์ไม้ตะเคียนทองหลังนี้ใช้เวลาสร้างนานกว่า 5 ปี มีเสาไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ที่หาชมได้ยากเรียงราย 32 ต้น แต่ละต้นมีขนาด 4-5 คนโอบ มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางสงฆ์ เช่น อุปสมบทหมู่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในโอกาสต่างๆ รวมถึงเป็นสถานที่ให้ประชาชนได้มาปฏิบัติธรรม และชื่นชมความงดงามของโบสถ์ไม้ตะเคียนทอง ซึ่งได้ช่างฝีมือจากทั่วประเทศมาร่วมกันสร้าง และรังสรรค์ศิลปะภายใน
ส่วนการโปรยทานจำนวนมากถึง 1,000,000 บาทนั้น ถือเป็นการบริจาคเงินให้กับประชาชนที่อุตส่าห์มีจิตศรัทธาเดินทางมาทำบุญที่วัด จึงอยากตอบแทน โดยเงินที่แจกนี้ถือเป็นเงินขวัญถุง เป็นกำลังใจให้ผู้ได้รับ เสริมพลังให้มุ่งมั่นประกอบอาชีพและกิจการต่างๆ ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป โดยเงินนี้ได้รับมาจากคณะเจ้าภาพที่นำมาถวาย ซึ่งหลวงพ่อก็ได้นำมาบริจาคให้ประชาชนต่อไป ซึ่งนอกจากนี้ จะนำเงินทำบุญทั้งมอบให้กับทาง โรงพยาบาล โรงเรียน วัด หรือสถานที่ขาดแคลน ถือเป็นการทำบุญช่วยเหลือสังคมต่อไป
ทั้งนี้ วัดพุทธวนาราม หรือวัดป่าวังน้ำเย็น ถือเป็นอันซีน (Unseen) ของจังหวัดมหาสารคาม จุดเด่นที่พลาดไม่ได้ ก็คือ ประติมากรรมพุทธรูปที่สวยสด งดงามเรียงรายอยู่ทั่ววัด และองค์ท้าวเวสสุวรรณที่ตั้งเด่นให้ประชาชนได้สักการะ และไฮไลต์ที่สำคัญ คือ โบสถ์ที่สร้างด้วยไม้ตะเคียนทองทั้งหลังใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีเสาไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ถึง 2 - 3 คนโอบจำนวน 32 ต้นอีกด้วย โดยภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อองค์เทพประธานพร” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนาคปรก แกะสลักจากไม้สักทองทั้งองค์ ความสูงกว่า 9 เมตร ถือเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพบเห็นต่างตื่นตาตื่นใจกับความอลังการเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงหยุดยาวเทศกาลต่างๆ จะมีประชาชนเดินทางมาเที่ยวชมวัดและกราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณ ที่วัดตลอดทั้งวันนับหมื่นคน ซึ่งทางวัดได้จัดจุดอำนวยความสะดวกและจัดทีมปฐมพยาบาลไว้รองรับกรณีที่อากาศร้อนจัดจนเกิดลมแดด และปฐมพยาบาลดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่มาวัดอีกด้วย
