เลขาฯกกต.เผยถก “วิษณุ” แค่ข้อปฏิบัติของนายกรัฐมนตรี-ครม. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 เบี่ยงเคาะวันหย่อนบัตร อ้างให้รอ กกต.ใหญ่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มี.ค. 66 ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลาหารือประมาณ 45 นาที
จากนั้นเลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์หลังการเข้าพบว่า การพูดคุยกับนายวิษณุในวันนี้ (20 มี.ค. 66) แค่เรื่องข้อปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ที่เป็นเรื่องลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีรักษาการ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการว่าทำอะไรได้บ้าง โดยต้องมาทำความเข้าใจกัน เพราะเป็นเรื่องใหม่
เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะมาคุยเรื่องของไทม์ไลน์ต่างๆ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องไทม์ไลน์ไม่ใช่เรื่อง ครม. แต่เป็นเรื่องของ กกต. ส่วน ครม.ต้องรู้เท่ากับคนอื่น ถ้า ครม.รู้ คนอื่นและประชาชนก็ต้องรู้เท่ากัน ถ้ามีการยุบสภาในวันนี้ กกต.จะต้องประชุมกันในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค. 66) ทั้งนี้ กกต.เตรียมพร้อมมานานแล้ว โดยต้องพิจารณาร่างประกาศวันรับสมัครเลือกตั้ง และร่างประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง ถ้ามีการยุบสภา การประกาศวันรับสมัครต้องรอผลการหารือของ กกต.ว่าจะเป็นวันใด จึงขอให้รอ กกต.
เมื่อถามว่าได้มีการสรุปเรื่องวันเลือกตั้งอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า ไม่ได้ตกลง แต่มาคุยกันเรื่องข้อปฏิบัติตามมาตรา 169 จึงต้องไปถาม กกต.ชุดใหญ่ที่มีหน้าที่กำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.จะพิจารณา และคงประกาศหลังยุบสภาฯ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบว่าจะประกาศยุบสภาในวันนี้หรือไม่ เพราะนายวิษณุไม่ได้เล่าให้ฟัง โดยวันเลือกตั้งต้องกำหนดให้มีขึ้นภายในเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน หรือไม่เกิน 60 วัน ส่วนจะตกวันไหนนั้นต้องไปดูเป็นวันหยุดเหมือนที่เคยเลือกมา
เมื่อถามว่า รัฐบาลมีส่วนเสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องวันเลือกตั้งหรือไม่ เลขาธิการกกต.กล่าวว่า ไม่มี ส่วนที่มองว่าจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าเรื่องวันเลือกตั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อยู่ในภายในเวลา 45-60 วัน ยังไม่รู้ว่าจะตกวันไหน
เมื่อถามว่า กรณีที่มีบางพรรคการเมืองไปร้องศาลปกครองเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ว่าไม่ชอบนั้น ทำให้ กกต.กังวลว่าจะทำให้วันเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เราเดินตามรัฐธรรมนูญ ตามเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด เมื่อถามย้ำว่ามีแผนอื่นรองรับเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งไว้หรือไม่ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มี ทั้งนี้ขอย้ำว่าถ้ายุบสภาฯ จะต้องมีการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน เราต้องทำตมกฎหมายที่ให้ทำอย่างนี้ ส่วนเรื่องการร้องศาลปกครอง ก็ต้องไปดูว่าผลจะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งไปคาดคะเน เพราะตนคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า ถ้าศาลปกครองตัดสินให้การแบ่งเขตของ กกต.เป็นโมฆะ กกต.จะดำเนินการอย่างไร กล่าวว่า ต้องรอดูศาลปกครอง การที่ถามว่าจะกระทบวันเลือกตั้งหรือไม่นั้น มาถามตนไม่ได้ เพราะวันนี้ กกต.เดินตามรัฐธรรมนูญ เราเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว แต่เป็นอำนาจ กกต.ที่จะบอกและพิจารณา ทั้งนี้ กกต.ไม่ได้คิดต่างจากประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าการเลือกตั้งมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. หรือวันที่ 14 พ.ค. จะต่างกันอย่าไร นายแสวง กล่าวว่า ในช่วงวันตามกฎหมายก็มีอยู่แค่นั้น เมื่อถามว่าการร้องยุบพรรคหลายพรรคจะทำให้การเลือกตั้งสะดุดหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ตนในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ต้องบอกว่าที่ผ่านมาทำตามกฎหมาย การแข่งขันอย่าไปกังวล ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ควรจะพูดหรืออะไรก็ว่ากันไป แต่กฎหมายให้การคุ้มครองทุกคนที่ไม่ได้ทำผิด ทุกหอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง ไปพูดก่อนไม่ได้ ถ้าเรื่องดี ก็ดี แต่ถ้าทำผิด ก็ต้องพิจารณาอยู่บนข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่าการกระทำนั้นๆ กฎหมายระบุให้เป็นความผิดหรือไม่ บางทีสิ่งที่ทำ อาจไม่ผดก็ได้ ต้องให้เป็นความธรรมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง
เมื่อถามว่ากรณีที่มีการประกาศ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) เป็นการเปิดทางให้ข้าราชการ นักการเมืองระดับชาติสามารถช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น นายแสวง กล่าวว่า ถ้ากฎหมายให้ทำ ก็ไปลิดรอนสิทธิ์เขาไม่ได้ ต้องดูเจตนาการออกกฎหมาย แต่สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ บทบาทของข้าราชการ ตนมองว่ากฎหมายทุกเรื่องกำหนดชัดไว้แล้ว กกต.มีหน้าที่บริหารสถานการณ์ในช่วงการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมือนเช่นในวันนี้ที่มาพูดคุยก็เพื่อให้เดเกิดความเรียบร้อย ทั้งกกต. พรรคการเมือง รัฐบาลรักษาการ ประชาชน ทุกคนควรอยู่กับที่ที่ควรอยู่เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย โดย กกต.เป็นผู้บริหารสถานการณ์ไปจนถึงวันเลือกตั้ง การที่ทุกฝ่ายมาพูดคุยกันให้เกิดความเข้าใจนั้น ถือเป็นเรื่องดี ถ้าร่วมมือกันจะเรียบร้อย ขอให้มั่นใจและสบายใจว่า กกต.จะทำงานเต็มที่
