วันที่ 27 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากน.ส.นิ่ม แม่หนูน้อยวัย 8 เดือน รับสารภาพว่าได้นำลูกชายไปวางไว้ยังจุดใกล้แม่น้ำท่าจีนใกล้กับกอไผ่ เนื่องจากกลัวความผิดโดยอ้างว่าเพราะทำลูกหล่นตกพื้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการค้นหาภายในคลองท่อ ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านพื้นที่ ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อหาร่างแต่จนล่าสุดพบแค่ผ้าอ้อมเด็ก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไปพิสูจน์หลักฐานต่อไป
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญวิทยาด้านพฤติกรรมและจิตวิทยา อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ม.มหิดล ถึงคำรับสารภาพของแม่หนูน้อยวัย 8 เดือน ดร.ตฤณห์ ให้ความเห็นว่า ลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพของแม่เด็ก 8 เดือน ซึ่งอายุแค่ 17 ปี การให้ข้อมูลวกไปวนมา แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีความกดดัน ทุกข์ใจ หรือข้อกังวลที่ทำให้ต้องโกหก อาจจะช่วยปิดบังช่วยคนที่รักหรือเหตุผลอื่น ๆ
ทั้งนี้คำรับสารภาพเป็นแค่ข้ออ้างเบื้องต้น ยังไม่เจอตัวเด็กจึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าคำให้การจริงหรือเท็จ ซึ่งการรับสารภาพหลังเกิดเหตุมานานกว่า 20 วันแล้วสามารถเติมแต่งได้ ไม่เหมือนตอนแรกที่เหตุเพิ่งเกิดซึ่งจะตอบด้วยอารมณ์ ความคิด ความรู้จริง ๆ แต่หากถามตอนนี้สามารถใส่รายละเอียดให้เรื่องน่าเชื่อถือขึ้นได้
โดยหลักจิตวิทยา การทำงานทางสมองของมนุษย์คนที่โกหกจริง ๆ จะไม่สามารถไล่เรียงเหตุการณ์ย้อนหลังได้ เช่น ถอยมาจนถึงวันก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ ทั้งนี้มีหลักฐานว่าเด็กเป็นไข้ไปสถานีอนามัยก่อนเกิดเหตุเป็นไปได้ว่าหากเด็กไข้สูงอาจจะเสียชีวิตเอง หรือทำตกพื้น หากเจอศพก็จะบอกได้ว่าน้องเสียชีวิตอย่างไร
ขณะที่พฤติกรรมของมนุษย์หญิงกับชายต่างกันในอาชญากร เช่น ฆาตกรต่อเนื่องผู้ชายมักจะใช้อาวุธปืนเป็นอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 คือทำให้ขาดอากาศหายใจทั้งบีบคอ ใช้หมอนกด ถุงคลุมหัว และ 3 คือการแทง ส่วนอันดับสุดท้ายคือวางยานิยมน้อยสุด แต่ผู้หญิงมักลดการปะทะกับเหยื่อจึงนิยมวางยาพิษ ส่วนพื้นที่ก่อเหตุมักจะใช้สถานที่ที่คุ้นเคย เช่น บ้านหรือที่ที่ตัวเองรู้เส้นทางเข้านอกออกในได้ และตามสถิติผู้หญิงมักจะฆาตกรรมคนใกล้ชิด เช่น ลูก มากกว่าเพศชายที่มักจะฆ่าคนแปลกหน้า ซึ่งเหตุผลที่ฆ่าของผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นเรื่องความรักและผลประโยชน์ ส่วนตัวมองว่าหากจะหาเบาะแสจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควรไปในสถานที่ ๆ แม่เด็กมีความคุ้นเคย