“อาจารย์คฑา ชินบัญชร” เปิด 4 ปีชงต้องระวัง แนะเคล็ดแก้ปีชงให้พ้นเคราะห์ร้าย

30 ธ.ค. 65

“อาจารย์คฑา ชินบัญชร” เปิด 4 ปีชงต้องระวัง แนะเคล็ดแก้ปีชงให้พ้นเคราะห์ร้าย พร้อมเปิดพิกัดสถานที่ สี และทิศมงคลที่ควรไปขอพรสร้างพลังงานบวกเสริมบารมีให้กับตัวเอง

อาจารย์คฑา ชินบัญชร เปิด 4 ปีนักษัตรชง และปีชงร่วมที่ต้องระวังเรื่องเคราะห์หามยามร้าย เคราะห์กรรม คำพูด รวมถึงเรื่องสุขภาพ ที่อาจได้รับผลกระทบตามหลักความเชื่อของด้านโหราศาสตร์ของจีน พร้อมแนะเคล็ดวิธีปีชงให้พ้นเคราะห์ร้าย สถานที่ สี และทิศมงคลที่ควรไปขอพรสร้างพลังงานบวกเสริมบารมีให้กับตัวเอง

ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่เข้ามา เวียนครบจบศักราช 2565 เริ่มต้นศักราชใหม่ปี 2566 ด้วยปีกระต่าย หรือตามหลักโหราศาสตร์ของจีนเรียกว่าปี “กุ่ยเบ้า” เป็นปีกระต่ายก้านฟ้าธาตุไม้ กิ่งดินธาตุน้ำ ปีนี้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี่ยทรงพระนามว่า “ผ่วยซี้ไต่เสียงกุง” ถือเป็นขุนพลฝั่งทางใต้ของจีน ประทะชนกับปีระกา หรือที่คนไทยเรียกว่า “ชง” ปีชงนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีปีนักษัตรที่เทพเจ้าไท่ส่วยเอี่ยประทับบนศรีษะ และได้รับผลกระทบอยู่อีก 3 ปีนักษัตร คือ 1.ปีเถาะตกหลัก “คัก” ต้องระวังเรื่องคำพูด 2.ปีชวดตกหลัก “เฮ้ง” ต้องระวังเรื่องเคราะห์กรรม 3.ปีมะเมียตกหลัก “ผั่ว” ต้องระวังเรื่องสุขภาพ ซึ่งการตกหลักปีคัก ปีเฮ้ง ปีผั่วนี้คนไทยเรียกว่า “ปีชงร่วม”

 

ปีเกิดที่ได้รับผลกระทบจากเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย และสิ่งที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

ปีระกา

1.ปีระกา ผู้ที่เกิดในปีระกาซึ่งตกตามหลัก “ปีชง” เรียกได้ว่าต้องระวังเกือบทุกเรื่อง ทุกสิ่งในชีวิต ถือเป็นเคราะห์หามยามร้ายของคนที่เกิดปีระกา ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ สุขภาพ ธุรกิจ การเงิน การงาน ความรัก การเจรจาต่างๆ รวมไปถึงเรื่องคดีความ อาจมีเรื่องให้ได้ขึ้นโรงขึ้นศาล ดังนั้นจึงต้องมีสติและใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทอยู่ตลอดเวลา

เคล็ดลับ นึกอะไรไม่ออกให้สวดมนต์ไหว้พระ ถือศีลกินเจ ให้ตั้งใจทำความดีตลอดทั้งปี ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและการเจริญสติ การนั่งสมาธิแผ่เมตตา การทำบุญก็ช่วยทำให้เรามีสติ ช่วยให้เราดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบ มีสติปัญญา เพราะฉะนั้นเวลามีเคราะห์หรือมีปัญหาอะไรก็จะแก้ไขปัญหาผ่านพ้นไปได้

หลังจากแก้ชงเราก็แก้เคล็ดแก้ชงเป็นทานบารมี ควรไปบริจาคให้กับผู้ด้อยโอกาสเป็นทานที่สำคัญ  2 อย่าง อันแรกคือคนชรา ต่อมาอับที่สองคือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ เช่น มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ร่วมกตัญญู มูลนิธิต่างๆ องค์กรทำดีของคุณบุ๋มปนัดดาก็ได้ หรือผู้ประสบภัยต่างๆ ได้ทั้งหมด

 

ปีเถาะ

2.ปีเถาะ ผู้ที่เกิดในปีเถาะซึ่งตกตามหลัก “ปีคลัก”เป็นปีที่ไท้ส่วยประทับศรีษะตัวเอง สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องคำพูด “พูดดีเป็นศรีปาก” จริงๆ แล้วคนที่เกิดปีนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะว่า พูดอะไรแล้วเป็นเงินเป็นทอง พูดอะไรก็ศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็จะมีปัญหาอยู่นิดหนึ่งเพราะเมื่อพูดแล้วศักดิ์สิทธิ์ ปัญหาคืออย่าแช่ง เพราะว่าบางครั้งแช่งด่าด้วยความโมโห ความน้อยใจ มันก็จะเป็นไปตามนั้น  เรียกได้ว่า “วาจาประกาศิต” เพราะว่าเทพเจ้าไท้ส่วยก็จะลงโทษเราด้วย แต่ถ้าเราพูดดี วาจาดี เจตนาดี องค์ไท้ส่วยก็จะอวยพรเราด้วยเช่นกัน

เคล็ดลับ คนเกิดปีเถาะคือต้องพูดแต่สิ่งดีๆ คำดีๆ ทำผมสวยๆ เพราะดาวบินสำคัญคือดาวบินไท้เอี๊ยง ก็ควรจะเปิดหน้าผาก เพราะตามหลักโหง่วเฮ้งแล้ว การเปิดหน้าผากเปรียบเหมือนเนินไท้เอี๊ยงอยู่ที่บริเวณหน้าผาก การเปิดหน้าผากถือเป็นการเสริมพลังของดาวบินสำคัญเรียกว่าดาวไท้เอี๊ยง นอกจากไหว้เทพไท้ส่วยแล้วก็ควรที่จะไปไหว้เทพไท้เอี้ยงด้วย ไท้เอี้ยงคือเทพพระอาทิตย์อยู่ที่วัดเล้งเน่ยยี่หรือที่วัดต่างๆ  หรือว่าจะสวดมนต์บทนะโมไท่เอี๋ยง ปู่ สะ ฮ้อ มอ ส่ะ เป็นบทสั้นๆ ถ้ายาวหน่อยก็บทโมลปริตรเป็นบทที่พระพุทธเจ้าเสวยชาติเป็นพญายูงทองโพธิสัตว์แล้วก็สวดมนต์บทนี้  “ขอบคุณพระอาทิตย์ที่ให้แสงสว่างแก่โลกและชีวิตแกสรรพสัตว์ดุจดังพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์”

 

ปีชวด

3.ปีชวด ผู้ที่เกิดในปีชวดซึ่งตกตามหลัก “ปีเฮ้ง” สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องเคราะห์กรรม ทำให้เป็นอุปสรรคในชีวิต ทำอะไรก็ไม่สะดวก ไม่สำเร็จโดยง่าย ให้ระวังเกี่ยวกับเรื่องเอกสารสัญญา คดีความต่างๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ รวมถึงการว่าความ ขึ้นโรงขึ้นศาล การประกอบสัมมาอาชีพใดๆ ที่ขัดหรือเสี่ยงต่อกฎหมาย บ้านเมือง ก็มีเกณฑ์จะได้รับโทษทัณฑ์ รวมถึงระวังเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ การถูกประทุษร้ายร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บด้วย

เคล็ดลับ หมั่นทำบุญทำทาน หลังทำบุญเสร็จก็ควรแผ่เมตตาให้แก่เจ้ากรรมนายเวร สวดมนต์เสร็จ ทำความดี หรือทำทานอะไรเสร็จก็ตาม ต้องอย่าลืมแผ่เมตตาให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย แต่วิธีการที่ทำบุญที่ตรงที่สุดคือ ทำบุญกับผู้ประสบภัย อัคคีภัย อุทกภัย แผ่นดินไหว หรือคนใกล้ชิดเราคนที่เขาเดือดร้อนเราก็ช่วยเหลือเขา และอย่าลืมแผ่เมตตาส่งบุญไป และช่วยเท่าที่เราไหวไม่ใช่ช่วยจนเราเดือดร้อน

 

 ปีมะเมีย

4.ปีมะเมีย ผู้ที่เกิดในปีมะเมียซึ่งตกตามหลัก “ปีผั่ว” สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องสุขภาพ ระวังจะเจ็บป่วยแบบไม่คาดคิด รวมถึงญาติผู้ใหญ่หรือคนใกล้ชิดรอบตัวจะเจ็บป่วยกะทันหัน จนทำให้มีผลกระทบต่อด้านการงาน งานต้องหยุดชะงักไม่ราบรื่น การเจ็บป่วยอาจเป็นต้นเหตุให้งานไม่สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่หวังไว้

เคล็ดลับ ต้องทำบุญเกี่ยวกับสุขภาพ ทำบุญเกี่ยวกับการบริจาคโลหิต ที่สภากาชาดไทย และสถานที่รับบริจาคโลหิตต่างๆ หรือว่าจะบริจาคเงินที่เกี่ยวข้องกับเลือด เช่น ซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับการบริจาคเลือดก็ได้ หรือทำบุญเกี่ยวกับคนป่วยตามโรงพยาบาล เช่นผู้ป่วยอนาถาหรือว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการทางสายตา พิการหูหนวก พิการสมอง(ซ้ำซ้อน) มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย มูลนิธิสิริวัฒนาเชสเชียร์เกี่ยวกับคนพิการ ก็จะช่วยเป็นทานบารมีให้กับเราบรรเทาเคราะห์กรรมต่างๆ ให้เบาบางลง ไถ่ชีวิตโค-กระบือ หรือเลี้ยงอาหารสัตว์ที่เขาเดือดร้อนอย่างนี้ก็ได้

 

 

 

วิธีแก้ปีชง

สำหรับคนทั้ง 4 ปีนี้จะมีวิธีแก้ชง แก้กรรม สะเดาะเคราะห์ที่เหมือนกันและแตกต่างกันเล็กน้อย ที่เหมือนกันก่อน อันแรกคือไปฝากดวงชะตาที่ไท้ส่วยเอี่ยที่วัดเล้งเน่ยยี่ หรือจะไปที่ศาลเจ้านาจาที่ จ.ชลบุรี อันนี้มีทั้ง 60 องค์เหมือนที่วัดหวังต้าเซียนที่ฮ่องกง หรือที่วัดทิพยวารี ที่บ้านหม้อก็ได้ สำหรับในประเทศไทย ถ้าในประเทศจีนก็จะลงไปที่ห้องใต้ดินวัดหวังต้าเซียน เมื่อไปถึงการฝากดวงชะตามีดังนี้

1.ใส่เสื้อผ้าสุภาพเหมาะสม สีสันสดใส หลีกเลี่ยงสีดำล้วนหรือสีขาวล้วน เหมือนไปงานอวมงคล หรือจะเลือกสีที่มงคลของปี้นี้ก็ได้ อันได้แก่สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง สีแดง

2.บอกทางวัดว่าฝากดวงชะตา เจ้าหน้าที่ก็จะให้กระดาษเงินกระดาษทองมาทั้งหมด 12 แผ่น แทน 12 เดือน มีค้อซี (กระดาษที่พับเป็นเงิน) นอกจากกระดาษเงินทอง บางที่ก็จะมีบัวเงินบัวทอง มีเผ้าด้วย (คือชุดจีนขององค์ไท้ส่วย) บางที่ก็จะมีเทียนแดงคู่หนึ่ง มีธูปแล้วแต่เรา แล้วก็จะมีเทียบสีแดง เทียบอันนี้จะให้เขียนชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดของเรา ถ้าไม่รู้ก็ให้เขียนว่า “เวลาดี วันดี เดือนดี ปีดี” แต่ถ้ารู้ก็เขียนลงไป

3.ขอพรฟ้าดินเสร็จก็ไปขอพรองค์ไท้ส่วย ไปอยู่ต่อหน้าองค์ไท้ส่วยแล้วก็เอาเทียบแดงพร้อมกระดาษเงิน กระดาษทอง 12 แผ่น ปัดตัว 12 ครั้งแทน 12 เดือน ซึ่งพูดด้วยว่า  “เฮง ไล้ ซวย ขื่อ โชคร้ายออกไป โชคดีเข้ามาในเดือนที่ 1 ” พูดไปจนครบ 12 เดือน การปัดไปด้วย ท่องไปด้วย อีกอย่างเป็นการให้เรามีสติรู้ตัวทั่วพ้องในการดำเนินชีวิตและไม่ประมาท

 

สถานที่และทิศมงคลที่ควรไปขอพรสร้างพลังงานบวกเสริมบารมีให้กับตัวเอง

เมื่อใดที่เราไปได้มีโอกาสไปนึกอธิษฐานจิตต่อหน้าศาลเจ้า เทวรูป หรือพระพุทธรูปทั้งหลาย ที่มีพลังงานบวกอันมหาศาล ผ่านอธิษฐานจิตของคนนับแสน นับล้านเป็นระยะเวลายาวนานนับพันๆปี สิ่งเหล่านั้นย่อมทำให้มีพลังบวก เกิดคลื่นของจิตที่ดี เป็นพลังงานบวกดีๆ ที่เรามองไม่เห็น ดังนั้นการที่เราได้มีโอกาสไปกราบไหว้พระ ไหว้เจ้า ในสถานที่ที่มีพลังบวกที่ตรงกับปีนักษัตรของเรานั้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้เพิ่มพลังงานบวกให้กับตัวเอง

ปีระกา

ต้องไปขอพรเทพเจ้าแช เหล่ง เกี๊ย เพราะระกากับมังกรเป็นเพื่อนกัน คู่มิตรดังนั้นการไปขอพรกับ แช เหล่ง(แช= มังกร เหล่ง=สีเขียว) แช เหล่ง เกี๊ย คือเทพเจ้ามังกรเขียว ก็จะส่งพลังงานดีๆ ให้กับปีระกา ที่วัดทิพยวารี บ้านหม้อ หรือที่จีนอยู่ที่ต้านโถ่วซัวเถา

ทิศมงคลที่สร้างพลังงานบวกให้กับคนที่เกิดในปีระกา : ทิศตะวันออกฉียงเหนือ ทิศตะวันตก ทิศตะวันออกเฉียงใต้

 

ปีเถาะ

ต้องไปขอพรองค์ไท่เอี๋ยง ต้องไปรับพลังงานบวกตรงทิศตะวันออก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศใต้ 3 ทิศนี้เป็นทิศที่ดีกับคนปีเถาะ และที่สำคัญมีเทวนารีที่สำคัญคือเทวนารีธาตุน้ำคือองค์ม่าโจ้ องค์เจ้าแม่กวนอิม สามารถไปสักการะได้ทั่วไปที่เดินทางเจอ หรือองค์เจ้าแม่หม่าโจ้(องค์เจ้าแม่ทับทิม) เดอะหล่ง1919 คลองสาน ไทวาน ฮ่องกง มาเก๋า

ทิศมงคลที่สร้างพลังงานบวกให้กับคนที่เกิดในปีเถาะ : ทิศตะวันออก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศใต้

 

ปีชวด

ต้องระวังเรื่องเคราะห์กรรม เอกสารสัญญา คดีความต่างๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ รวมถึงเอกสารสัญญาการเอารัดเอาเปรียบ ไปขอพรเจ้าพ่อเสือ(หลีเอี่ย)กับเจ้าพ่อเฮ่งเจีย ศาลเจ้าพ่อเสือที่เสาชิงช้า,สามย่าน เทวนารีที่ทุกคนต้องไหว้ทั้งหมดคือองค์หม่าโจ้ เพราะเป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ ปีกระต่ายธาตุน้ำจึงต้องไปไหว้เทวนารีธาตุน้ำ คือ เจ้าแม่กวนอิม และองค์หม่าโจ้

ทิศมงคลที่สร้างพลังงานบวกให้กับคนที่เกิดในปีชวด : ทิศเหนือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศตะวันตกเฉียงใต้

 

ปีมะเมีย

ต้องระวังเรื่องสุขภาพ อยากให้มีสุขภาพความแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ต้องไปไหว้เจ้าพ่อม้ากับเจ้าพ่อกวนอู เจ้าพ่อกวนอูอยู่ที่ศาลเจ้ากวนอูคลองสาน หรือจะไปแบเอี่ยตลาดเก่าเยาวราช หรือที่ จ.อ่างทอง หรือที่ใดกป็ได้ที่มีศาลเทพเจ้ากวนอูประทับอยู่ และต้องไปไหว้เจ้าพ่อม้า เจ้าพ่อม้าเป็นม้าเกล็ดเทา เป็นม้าที่สีขนเป็นโลหิต สีแดงเข้มน้ำตาลแดง เป็นม้าเจ็กเทามีความอดทน แข็งแรง บึกบึน วิ่งเร็ว ตะลุย กล้าหาญ แบกของได้หนัก ดุดัน ซึ่งเป็นม้าของลิโป้ โจโฉรบชนะลิโป้ก็ยึดม้ามา แล้วก็เอาม้ามาให้กวนอู ดังนั้นจึงไปไหว้เจ้าพ่อกวนอูให้ควบคุมม้า และไปไหว้ม้า สำหรับเคล็ดลับในการไหว้เจ้าพ่อม้า ให้พูดว่า “แบ้ ก่าว เส่ง กง หม่า เป้า เซิ่ง กง เมื่อม้ามาถึงทุกสิ่งสำเร็จ”แล้วเอาผักไปถวาย

ทิศมงคลที่สร้างพลังงานบวกให้กับคนที่เกิดในปีมะเมีย : ทิศใต้ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออก

สีที่เป็นมงคลปีนี้ เป็นสีที่ควรจะมีบริเวณห้องรับแขก บริเวณกลางบ้าน ได้แก่ สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง สีแดง ถือเป็นสีที่ดี เพราะฉะนั้นเวลาจะเปลี่ยนกระเป๋าตังค์หรืออะไรต่างๆ สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดงถือว่าดีมาก

 

 

 

 

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม