หมอแล็บแพนด้า แนะ วิธีการป้องกันติดเชื้อ "อะมีบา" จากการสำลักน้ำ จนอาจทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หลังหนุ่มเกาหลีเสียชีวิตเป็นรายแรกของประเทศ
วันที่ 27 ธ.ค.65 สื่อในประเทศเกาหลีใต้ รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตรายแรกจากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา หรืออะมีบากินสมอง โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี มีประวัติเดินทางกลับจากไทยเมื่อ 10 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา หลังพำนักในไทยประมาณ 4 เดือน โดยเขาถูกนำส่งโรงพยาบาล และตรวจพบเชื้อเมื่อ 11 ธ.ค. 65 และเสียชีวิตเมื่อ 21 ธ.ค. 65
โดย สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ ระบุว่า มีการตรวจทางพันธุกรรมเพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตของชายคนดังกล่าวแล้ว โดยพบว่า 99.6 เปอร์เซ็นต์ ตรงกับเชื้ออะมีบากินสมองที่พบในต่างประเทศ นับว่านี่เป็นผู้เสียชีวิตจากเชื้ออะมีบากินสมองรายแรกที่พบในเกาหลีใต้
สำหรับอาการทั่วไปของผู้ติดเชื้อนี้จะมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ เวียนหัว และอาเจียน ปวดศีรษะ ซึ่งจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ จะแสดงอาการตั้งแต่ 3-15 วัน แต่ยังไม่พบการติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์พบว่าเชื้ออะมีบาส่วนใหญ่จะอยู่ในดิน หรือแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีความอุ่น
ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ได้โพสต์ข้อความระบุว่า วันนี้มีข่าวชายเกาหลีมาเที่ยวไทย แล้วเสียชีวิตหลังเดินทางกลับประเทศ ด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบา ‘นีเกลอเรีย’ (Naegleria fowleri)
ซึ่งคนจะติดเชื้อนี้จากการเล่นน้ำที่ไม่สะอาด เช่น ตามบ่อธรรมชาติ ตามสระ ถ้าบังเอิ๊ญในน้ำมีเชื้ออะมีบา แล้าเราสำลักน้ำเข้าไปทางจมูก เชื้อมันจะลามเข้าสมองเราได้ โดยเฉลี่ย 5 วัน หลังสำลักน้ำเราจะเริ่มมีอาการปวดหัว มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน คอแข็ง ชักเกร็ง อาการจะค่อยๆแย่ลงและเสียชีวิต ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมจากหมอ
วิธีการป้องกันติดเชื้ออะมีบาจากการสำลักน้ำ ก็คือ การระวังอย่าให้น้ำเข้าโพรงจมูก ถ้าน้ำเข้าไปก็สั่งออกแรงๆ รีบล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ อาจจะหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำหรือดำน้ำในบ่อธรรมชาติที่ไม่สะอาด ส่วนสระว่ายน้ำก็ควรรักษาความสะอาด ใส่คลอรีน ตามมาตรฐานกำหนด และถ้าเรามีอาการน่าสงสัยหลังจากสำลักน้ำ อย่าลืมไปหาหมอนะครับ
