วันที่ 20 ธ.ค. 65 ที่ ท่าเรือบางสะพาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณริมชายฝั่งใกล้กับท่าเทียบเรือบางสะพาน จุดปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายในทะเล พบว่ามีแม่และน้าสาวของ พลทหารจิราวัฒน์ ธูปหอม ได้นำธูปคนละ 9 ดอก มาปักบริเวณริมชายฝั่งเพื่อบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอให้พลทหารจิราวัฒน์กลับบ้านอย่างปลอดภัย
นางสาวผ่องศรี สุขสวัสดิ์ แม่ของพลทหารจิราวัฒน์ เปิดเผยว่า วันนี้หลังจากที่ตนเองติดตามข่าวตอนแรกเข้าใจว่าทางด้านของกองทัพเรือยืนยันว่า ทหารที่อยู่บนเรือทุกคนปลอดภัย ตนเองก็เข้าใจว่าหนึ่งในนั้นคือลูกชายของตนเองก็ได้รับความปลอดภัยไปด้วย แต่ปรากฏว่าหลังจากที่มีการประกาศรายชื่อออกมา 75 คน ไม่มีชื่อของลูกชาย จึงได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าในการค้นหาเบาะแสลูก
โดยตอนแรกลูกชายตนเองเกือบจะรอดหรืออาจไม่ใช่ผู้ประสบภัยที่อยู่ในเหตุการณ์เรือร่ม เพราะเนื่องจากตอนแรกที่มีการประกาศรายชื่อบุคคลที่จะต้องเดินทางไปร่วมงาน 100 ปีสมเด็จเตีย ไม่มีชื่อของลูกชายเพราะเนื่องจากเป็นเพียงแค่พลทหาร แต่ปรากฏว่าช่วงเย็นวันเดียวกันก่อนที่เรือจะออกเดินทางมีคนที่อยู่ในเรือป่วย จึงได้มีการเปลี่ยนรายชื่อใหม่ ซึ่งมีลูกชายของตนเองต้องเดินทางไปด้วย จากนั้นลูกชายก็ได้โทรมาคุยกับตนเองก่อนที่จะขึ้นเรือโดยบอกว่า "ไม่อยากไป ไม่เคยขึ้นเรือ กลัวเรือจะล่ม" ตนเองก็ไม่คิดว่าคำพูดของลูกชายจะเป็นลางบอกเหตุ เพราะการที่ขึ้นเรือไปแล้วกลายต้องเกิดเหตุการณ์เรือร่ม และลูกชายดันมีรายชื่อบุคคลสูญหาย ดังนั้นตนเองจึงอยากจะขอให้ลูกชายตนเองปลอดภัย
สิ่งที่ตนเองคาใจในฐานะผู้ปกครองของพลทหาร คือเรื่องของความเพียงพอเกี่ยวกับชูชีพ ที่มีกระแสข่าวหรือแม้แต่คำยืนยันจากกองทัพเรือว่ามีไม่ครบจำนวนคน ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันคำว่าพวงชูชีพนั้น จะสามารถต้านคลื่นลมได้มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญตนเองจำได้ว่าตอนที่ลูกชายตนเองยังพอติดต่อได้ทราบว่าเรือล่มช่วงเวลาประมาณก่อน 19.00 น. แต่ทำไมเรือจมจริงคือช่วงเวลาก่อนเที่ยงคืน แต่สุดท้ายการช่วยเหลือไม่มีการดำเนินการอย่างทันท่วงที จึงบอกว่าตอนนั้นหน่วยงานต้นสังกัดกำลังทำอะไรอยู่ทำไมถึงช่วยเหลือกันล่าช้า
ต่อมาเวลา 17.30 น. นางจำเนียร เทพยส ญาติของ จ.อ.จักรพงค์ พูลผล จ่าปืนกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย ที่ยังสูญหาย เดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี ถึงท่าเรือบางสะพาน เพื่อร่วมติดตามการค้นหา
นางจำเนียร เล่าว่าตัวเองทราบข่าวว่าหลังจากเกิดเรืออัปปางตอนแรกว่าทุกคนปลอดภัยดีจึงวางใจและไม่ได้เดินทางมา แต่พอทราบข้อเท็จจริงแล้วจึงรีบเดินทางมาร่วมติดตามการค้นหาทันทีเพราะเป็นห่วงหลาน ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกันเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา โดยหลานบอกว่ากำลังทำภารกิจอยู่บนเรือหลวงสุโขทัย ที่ อ.บางสะพาน โดยปกติดีไม่ได้มีปัญหาอะไร และไม่ได้พูดถึงเรื่องของชูชีพหรือความปลอดภัยบนเรือ หลานรักอาชีพทหารเรือและประกอบอาชีพนี้มานานกว่า 10 ปี เป็นคนนิสัยดีไม่มีพิษมีภัยกับใคร
ยืนยันว่าในฐานะญาติก็ยังคาใจเรื่องอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยบนเรือ ที่ขาดตกบกพร่องทำให้เสี่ยงต่อการพยุงตัวเอาชีวิตรอด เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ขึ้น ทั้งนี้ครอบครัวยังไม่ได้มีการบนบานสานกล่าวที่ใด แต่ยังมีความหวังและเชื่อว่าหลานชายยังมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย อยากให้เจ้าหน้าที่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดจะได้ทำใจถ้าตายจะได้รับศพกลับบ้าน
