วันที่ 17 มิ.ย. 62 จากกรณีสุนัขพันธุ์พิตบูล 2 ตัว ของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ไล่กัด และขย้ำเด็กชาย อายุ 11 ปี จนได้รับบาดเจ็บหนัก เป็นแผลฉีกขาดที่บริเวณปาก รวมทั้งตามจุดต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และ เย็บ 17 เข็ม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 62
นางนานส่วยจ่า อายุ 51 ปี แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา แม่ของเด็กผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ลูกชายรับการรักษาด้วยการเย็บแผลทั่วร่างกาย โดยเฉพาะแผลฉีกขาดที่ปาก รวมหลายสิบเข็ม ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.62 และเพิ่งได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันนี้ แต่ยังคงต้องไปเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง และน่าจะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นทางคู่กรณีที่เป็นเจ้าของร้านค้าในโครงการ ได้ให้การช่วยเหลือด้วยเงิน 3,000 บาท และไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลประมาณ 20,000 บาท ที่โรงพยาบาลให้แล้ว รวมทั้งรับปากว่าจะจ่ายเงินค่าทำขวัญให้อีก
นางนานส่วยจ่า กล่าวว่า เด็กชายแสง อายุ 11 ปี ลูกชายเล่าให้ฟังว่ายังอยู่ในอาการหวาดผวา โดยช่วงเกิดเหตุกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ในเพิงพักคนงาน ไม่ห่างจากจุดที่แม่และคนงานกำลังทำงานกันอยู่ มีสุนัขวิ่งมาจากด้านหลัง แล้วกัดเข้าที่แขนขวา ด้วยความเจ็บปวด และตกใจกลัว จึงพยามหลบหนีด้วยการจะมุดเข้าไปหลบใต้รถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ ๆ แต่เข้าไปไม่ได้ ทำให้ถูกสุนัขทั้ง 2 ตัว รุมกัดจนเป็นแผลทั่วร่างกาย จากนั้นเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาช่วยเหลือ ไล่สุนัขไป และพาส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ ตอนนี้อาการดีขึ้น แต่ยังคงเจ็บแผลทั่วร่างกาย ยอมรับว่ายังหวาดกลัวมาก ไม่กล้าเข้าใกล้สุนัข และจะไม่ออกจากบ้านไปอยู่ใกล้เคียงร้านที่เป็นเจ้าของสุนัขที่กัดตัวเองอย่างแน่นอน โดยหากเป็นไปได้อยากให้นำไปอยู่ที่อื่น
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าไม่มั่นใจว่าจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาตามที่ตกลงหรือไม่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี
ส่วนอาการของลูกชาย สภาพจิตใจยังย่ำแย่ และหวาดผวาอย่างหนัก อยากวิงวอนให้ทางเจ้าของสุนัข ย้ายสุนัขทั้ง 2 ตัวไปอยู่ที่อื่น ล่าสุด หลังจากที่เกิดเหตุแล้วพบว่ายังคงพาเดินเล่นอยู่ในพื้นที่โครงการ ซึ่งเข้าใจว่าเจ้าของน่าจะมีความรักความผูกพันกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ แต่บริเวณโครงการเป็นแหล่งชุมชนที่มีร้านค้าต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และเป็นตลาดนัด ซึ่งมีผู้คนเยอะ จึงไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก