ภาพถ่าย "เสือดาวหิมะ" บนเทือกเขาหิมาลัย ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นภาพตัดต่อหลังมีจุดน่าสงสัยมากมายในภาพ และชื่อของช่างภาพไม่เป็ฯที่รู้จักในวงการ
ภาพถ่าย "เสือดาวหิมะ" บนเทือกเขาหิมาลัย ของ "กิตติยา พาว์โลว์สกี้" (Kittiya Pawlowski) เรียกได้ว่าเป็นภาพถ่ายที่ทำเอาเป็นที่ฮืออาไปทั่วโลก เพราะเจ้าเสือดาวหิมะไม่ออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ลยโฉมนานกว่า 3 ทศวรรษ เพราะมีนิสัยที่ขี้เอายและพรางตัวเก่งมาก
การที่ กิตติยา สามารถเก็บภาพของ "เสือดาวหิมะ" ได้นั่นทำให้หลายคนนั้นมองว่าเธอช่างโชคดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งภาพถ่ายของเธอยังกลายเป็นไวรัลบนสื่อระดับโลกมากมาย พร้อมกับถูกยกย่องให้เปฯภาพถ่ายที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก
กิตติยา พาว์โลว์สกี้ เขียนบทความลงในเว็บไซต์ส่วนตัวว่าเธอถ่ายภาพนี้ได้ที่เนปาล โดยเธอเดินทางขึ้นเขาไปกับไกด์ท้องถิ่น ต้องเดินเท้ากว่า 165 กม. กว่าจะได้ภาพเหล่านี้มา เธอเล่าเรื่องการเดินทางไปที่นั่นอย่างละเอียด แต่พอถึงจุดที่เจอเสือกลับเล่าแบบรวบรัด ไม่ลงรายละเอียดมากนัก
หลังจากกลายเป็นไวรัลไปได้ไม่ ก็เริ่มมีคนตั้งข้อสงสัยเกียวกับภาพถ่ายเสือดาวหิมะบนเทือกเขาหิมาลัยของเธอว่ามีบางอย่างที่แปลกไป เช่น ภาพถ่ายดูดีและสมบูรณ์แบบเกินไปเหมือนจัดวางตามใจสั่ง บางภาพการตกของแสงและเงาดูแปลก และมองเห็นคอลลาจในภาพ ในวงการช่างภาพสัตว์ป่าและภูเขา ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อกิตติยามาก่อน ทางด้านของผู้เชี่ยวชาญด้านเสือดาวหิมะบอกว่าโอกาสที่จะได้พบเสือดาวหิมะบริเวณธารน้ำแข็งนั้นไม่มี เพราะไม่มีอาหารให้มันกิน
อีกหนึ่งข้อสังเกตที่แปลกสำหรับช่างภาพที่ชื่อ กิตติยา มีเพียง 4 ภาพถ่าย ซึ่งก็คือภาพเซ็ตนี้ และไม่มีประวัติของเธอ ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก จะมีช่างภาพสักกี่คนที่ไม่อยากโชว์ผลงานของตัวเองในแกลเลอรี
ส่วนในอินสตาแกรมที่มีผู้ติดตาม 5 หมื่นคนก็มีรูปแค่ 5 รูป คือภาพเสือดาวเซ็ตนี้ และอีกภาพเป็นภาพตัวเธอเองยืนถือกล้อง ฉากหลังเป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ซึ่งภาพนี้ถูกใช้เป็นรูปโปรไฟล์ด้วย พอเอาไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นภาพตัดต่อ มีหลายจุดให้จับผิดได้ ทั้งฉากหลัง รูปร่าง ทรงผม เลยเกิดคำถามว่าหากเธอมีตัวตนจริงแล้วทำไมต้องตัดต่อรูป
นอกจากนี้ ภาพถ่ายของ กิตติยา มีความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งนกพิราบที่บินอยู่เหนือเทือกเขาหิมาลัย การเติมหิมะเข้าไปเพื่อให้ดูมีสีขาวโพลนดังกับอยู่บนยอดเขาแต่ความจริงแล้วกลับเป็นเพียงเขาบริวารที่อยู่โดยรอบเท่านั้นเอง อีกทั้งเมื่อตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว พบว่าภาพถ่ายเป็นภาพที่ถูกถ่ายจากกล้องที่เธอใช้จริง แต่ที่น่าแปลกคือวันที่ของภาพที่ไม่ตรงและระบุเป็นปี 2018
ตอนนี้มีคำถามมากมายที่ยังไม่มีคำตอบ เช่น กิตติยามีตัวตนจริงหรือไม่ ถ้าไม่มีแล้วใครสร้างเธอขึ้นมา แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้อินสตาแกรมและเพจเฟซบุ๊กของกิตติยาล้วนถูกปิดไปหมดแล้ว
ขอบคุณข้อมูล : Poetry of Bitch , alpinemag
