สาวโวยตำรวจสุดอืด ถูกโจรตบหน้าชิงทรัพย์ ต้องวิ่งหาหลักฐานประเคนให้ (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก บริสุทธิ์ ผุดผ่องเป็นยองใยไข่ไก่เบอร์สอง โพสต์เรื่องราวเหตุโจรกระชากกระเป๋า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 62 เวลา 19.20 น. ระบุว่า มีหญิงถูกคนร้าย 2 คน ชิงทรัพย์ พร้อมพูดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังแจ้งความ กลับให้ผู้เสียหายหาหลักฐานเอง โดยผู้เสียหายมีอาการบาดเจ็บ เลือดไหลที่ปากและหูซ้าย ปวดแขนข้างซ้าย มีรอยเขียวช้ำ

ล่าสุด วันที่ 12 เม.ย. 62 น.ส.สุนิสา บุญณะ หรือ ใหม่ อายุ 25 ปี ดีไซเนอร์จิวเวอร์รี่ ผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเพิ่งเลิกงาน ระหว่างออกจากออฟฟิศ มีรถจักรยานยนต์ PCX ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขี่ขึ้นมาบนฟุตพาท เห็นชาย 2 คนใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาว ใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า จอดหน้าออฟฟิศตน จากนั้นคนขี่ลงจากรถ เดินปรี่เข้ามาหาตน แล้วตบหน้าตนอย่างแรงจนล้มลงกับพื้น ก่อนกระชากกระเป๋าพร้อมทรัพย์สินของหลบหนีไป ตนพยายามวิ่งตามแล้วแต่ไม่ทัน ซึ่งทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมีกระเป๋าเงิน เงินสด โทรศัพท์ แหวนทอง แหวนพลอย รวมมูลค่าประมาณ 60,000 บาท

ทั้งนี้ ตนได้วิ่งกลับเข้าไปที่ออฟฟิศเพื่อโทรศัพท์แจ้งตำรวจ โดยตำรวจสอบถามพิกัดจุดเกิดเหตุ กระทั่งเวลาผ่านไป 20 นาที ไม่มีตำรวจมาที่เกิดเหตุ ตนก็โทรกลับไปอีกรอบ ตำรวจบอกว่า "ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่เกิดเหตุด้วยหรือ" ตนยอมรับว่างง เพราะสาเหตุที่โทร. ไปคือต้องการให้ตำรวจมาที่เกิดเหตุ เพราะตนโดนทำร้ายร่างกายด้วย หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย มาที่เกิดเหตุ และถ่ายรูปเป็นหลักฐาน พร้อมบอกกับตนให้ไปสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก แล้วจะโทร. กลับ แต่หลังจากเกิดเหตุก็ไม่เคยรับการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด

น.ส.สุนิสา กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนติดต่อตำรวจเพื่อให้เบาะแส เช่น กล้องวงจรปิด จุดจับสัญญานจาก iPhone แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าทางคดี ทั้งนี้ ตนแจ้งว่าข้างบริษัทของตนมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ ซึ่งต้องขอใบอนุญาตจากเข้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจบอกว่าจะดำเนินการขอกล้องเอง ให้ตนรอติดต่อกลับ แต่ 3 วันผ่านไปก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ ตนเกรงว่ากล้องวงจรปิดอาจจะมีปัญหาได้ หากไม่รีบขอภาพหลักฐาน จึงตัดสินใจขอเอกสารจากเจ้าหน้าที่เพื่อไปขอหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเอง เมื่อได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ตนนำมาให้เจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่เพียงบอกกับตนว่าจะติดต่อกลับ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ

นอกจากนี้ มีติดตามจากสัญญาณโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 62 บริเวณซอยอรุณอมรินทร์ 15 บางกอกน้อย กทม. ก่อนที่คนร้ายจะไหวตัวทันแล้วปิดเครื่องหนี ซึ่งตนได้โทร. แจ้งทางเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด จนกระทั่งตนต้องไปตามสัญญาณโทรศัพท์ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงตำรวจว่า ถึงแม้จะไม่ใช่คดีใหญ่มาก ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ถือว่าเป็นภัยกับสังคมเช่นกัน อยากให้จับตัวคนร้ายให้ได้

ด้าน ร.ต.อ.เทียนทิพย์ อุเทศ รองสารวัตร (สอบสวน) สน.บางโพงพาง ผู้ดูแลคดี ปฏิเสธให้รายละเอียดข้อมูล ระบุว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน ขณะที่ พ.ต.อ.สมโภช สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางโพงพาง เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด จึงขอเวลาตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ เพื่อจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป