กรณีเพจ "กู้ภัยบูรพานนทบุรี" โพสต์ภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 65 เวลาโดยประมาณ 13.00 น. อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง จุดเมืองปทุม ปากคลองรังสิต สวนพริกไทย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุมีคนเจ็บหลายรายถนน 345 หน้าปั๊มน้ำมัน PT ก่อนขึ้นสะพานปทุมธานี 2 มุ่งหน้าบางคูวัด จึงจัดกำลังอาสาสมัครออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่ออาสาสมัครเดินทางถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ isuzu สีขาว 4 ประตู ลักษณะคล้ายรถแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพฯ สภาพล้อแตกเกือบทั้งหมดเหลือเพียงล้อด้านซ้ายหลังและสภาพด้านหน้าพังเสียหายด้านข้างด้านขวาบุบ
และในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย คือนายประสาน บุญศรี อายุ 36 ปี ชาวต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เป็นผู้ขับขี่ น.ส.กุลฤทัย นิลพฤกษ์ อายุ 29 ปี ชาวจ.ตรัง เป็นผู้โดยสาร
ส่วนรายที่ 3 เสียชีวิตในเวลาต่อมา คือ น.ส.ธัญลักษณ์ ศริพันธ์ อายุ 35 ปี ชาว จ.ปทุมธานี เขตพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต จึงมีการสอบถามข้อมูลในจุดเกิดเหตุ ทราบว่ารถยนต์กระบะคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูง และเกิดเสียหลักขึ้นชนฟุตพาท และเสาไฟส่องแสงสว่างของปั๊ม และไปเฉี่ยวชนกับเจ้าของร้านค่าเช่า ที่นั่งอยู่ซึ่งกำลังทำความสะอาดล้างจานจนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต จึงจะดำเนินการตรวจสอบหากล้องวงจรปิดใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากการขับในลักษณะหวาดเสียวหรือขับแข่งกันมา
ล่าสุด 9 ส.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ พบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งเสาไฟส่องสว่างของปั๊ม ต้นไม้ประดับหักโค่นทั้งต้น ท่อประปาแตก ร่วมถึงพบแผ่นป้ายทะเบียนของรถคันเกิดเหตุตกอยู่
นายสุรศักดิ์ มหามาตย์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านยางรถยนต์ ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ขณะนั้นนั่งอยู่บริเวณหลังร้าน ไม่ได้เห็นว่ารถทั้ง 3 คันแข่งกันมาหรือว่าอย่างไร จากนั้นช่วงเวลาประมาณเที่ยงกว่า ๆ ได้ยินเสียงดังตุ้มซึ่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อออกมาก็พบว่ารถกระบะลักษณะแต่งซิ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้าของปั๊มน้ำมัน
ขณะนั้นไม่ทราบว่าเจ้าของร้านที่เช่าร้านขายข้าวแกงของปั๊มน้ำมันเสียชีวิต ก่อนที่จะมีเสียงเด็กปั๊มตะโกนขึ้นมาว่ามีคนเสียชีวิต ตนจึงเดินไปดูพบสภาพของผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตคาที่จมกองเลือด ขณะเดียวกันตนเองได้ยินเด็กปั๊มบอกอย่างชัดเจนว่ายังมีรถอีก 2 คันที่วิ่งนำหน้าแข่งกันมา ด้วยความเร็วหลังเกิดอุบัติเหตุ 2 คันหน้าไม่ได้จอดดู หนีไปทันทีที่เกิดเหตุ
ทีมข่าวเดินทางมายังวัดบางเดื่อ จ.ปทุมธานี มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ น.ส.ธัญลักษณ์ ศริพันธ์ุ อายุ 35 ปี นายสมพงษ์ แซ่ลี้ อายุ 35 ปี สามีผู้เสียชีวิต รวมถึงแม่ พี่สาว และลูกสาววัย 8 ขวบ ร้องไห้เสียใจตลอดเวลา
นายสมพงษ์ เล่าว่า วันนั้นตนไปทำงานส่วนภรรยากับลูกสาวขายข้าวแกงกันที่ปั๊มน้ำมัน จู่ ๆ ลูกสาว 8 ขวบ โทรศัพท์หาตนบอกว่าแม่โดนรถเฉี่ยว แต่น้ำเสียงลูกตกใจ และให้ตนรีบไปหา เพราะว่าแม่ไม่ได้สติ ซึ่งใจตอนนั้นตนคิดว่าภรรยาคงเป็นอะไรไม่มาก จึงขับรถยนต์ไป เมื่อใกล้ถึงที่เกิดเหตุรถติดนานมากซึ่งกว่าจะไปถึง เจ้าหน้าที่ก็กันพื้นที่ไว้หมดแล้ว ไม่ได้ดูหน้าภรรยาในตอนนั้นเลย มีเพียงแม่ที่ไปถึงก่อนได้ดู และก็ทำใจไม่ได้ เพราะภาพที่เห็น ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลย ทุกอย่างมันยับเยินไปหมด
จากการสอบถามลูกสาว เล่าว่า เห็นรถวิ่งมามีเสียงระเบิดดังมาก 1 ครั้ง ก่อนพุ่งมาชนมาที่แม่ ซึ่งกำลังล้างจานอยู่หลังร้าง กำลังจะเสร็จและลุกจากเก้าอี้ รถยนต์ก็พุ่งมาชนแม่ดังตู้มติด ๆ ลูกสาวตกใจ ช็อกสั่นกลัวมาก เหตุการณ์นี้ยังเหลือชีวิตลูกสาวไว้ต่างหน้า เพราะปกติลูกสาวจะเดินตามตูดแม่ตลอด เพื่อถามไถ่ว่า แม่หนูช่วยไหม" แต่วันนั้นลูกไม่เดินตามแม่ จึงรอดหวุดหวิด สำหรับคู่กรณีติดต่อมาทางพี่สาวและพี่ชายขอช่วยค่าทำศพ 20,000 บาท แต่ครอบครัวยังเสียใจ และยังไม่ได้ตกลงอะไรใด ๆ ดังนั้นครอบครัวจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่ใช่อุบัติเหตุปกติ เป็นเพราะคุณคึกคะนองแข่งกันมา และมากระทำภรรยาที่รักจากไปไวขนาดนี้