ล่าสุด วันที่ 8 มี.ค. 62 นายประจันทร์ สิงห์ขรณ์ อายุ 63 ปี พานายศุภโชค สิงห์ขรณ์ อายุ 36 ปี ลูกชาย คนขับรถแท็กซี่ เข้าพบ พ.ต.ท.กวี ช่วยสร้าง สารวัตรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต
นายศุภโชค ให้การว่า ได้รับนายชยางกูล ดำโอ และนายรัชชานนท์ นุ่นแก้ว ผู้โดยสารจากหมอชิต โดยเรียกค่าโดยสารเหมาจ่าย 900 บาท แต่ผู้โดยสารทั้ง 2 คน กลับจ่ายมาคนละ 900 บาท รวมเป็นเงิน 1,800 บาท
ซึ่งตนไม่ได้ทักท้วงใด ๆ เพราะพ่อป่วย ต้องการใช้เงิน อีกทั้งคิดว่าผู้โดยสารคงไม่เดือดร้องเรื่องเงิน และไม่ทราบว่าญาติของวัยรุ่นทั้งคู่จะมาแจ้งความให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ทั้งนี้ ตนต้องขอโทษทุกคน โดยเฉพาะพ่อ ที่ต้องเดือดร้อนจากการถูกต่อว่า และต้องมาโรงพักด้วย
ขณะที่
นายประจันทร์ พ่อนายศุภโชค เจ้าของรถแท็กซี่ กล่าวว่า ตนป่วยเป็นโรคไขมันอุดตัน ทำให้กล้ามเนื้อซีกขวาอ่อนแรงมา 2 ปี จึงให้ลูกชายไปขับรถแท็กซี่แทน ซึ่งลูกชายมีใบขับขี่ และใบอนุญาตขับรถแท็กซี่อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น และขอโทษ พร้อมยอมรับผิดในสิ่งที่ลูกชายทำลงไป
ขณะที่ สารวัตรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้ประสานขอเลขบัญชีธนาคารจากผู้เสียหายแล้ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุ มีความประสงค์ที่จะคืนเงินให้ในส่วนที่จ่ายเกิน แต่การเรียกค่าโดยสารเกินราคา ตามที่ขนส่งกำหนด และไม่กดมิเตอร์ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่ง โดยตำรวจ จะได้พาตัวผู้ก่อเหตุ ไปเปรียบเทียบปรับที่ฝ่ายตรวจการรถ กรมการขนส่งทางบกต่อไป