ตะลึงส่องฝาบ้านเจอศพคน ที่แท้ฝีมือเจ้าบ้านฆ่าเพื่อนยัดกองไม้ อ้างแค้นถูกด่าแม่ (คลิป)

สืบเนื่องจากเมื่อเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านตาขุน ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันเสียชีวิตที่บริเวณบ้านไม่เลขที่ ต.เขาวง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี พบผู้เสียชีวิตคือ นายจีรพงษ์ เรืองฤทธิ์ อายุ 29 ปี ชาวจ.ระนอง

โดยสภาพศพถูกทุบด้วยของแข็ง ที่บริเวณศีรษะนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน ศพถูกปิดด้วยฟูกผ้าห่ม และใช้ป้ายไม้ปิดปลายเท้าเอาไว้ป้องกันการมองเห็น และคนร้ายได้หลบหนีไป

ล่าสุด วันที่ 18 พ.ค. 65 ที่ สภ.บ้านตาขุน พ.ต.ท.หญิง โสพิศ พิศพรรณ รอง ผกก.สส. สภ.บ้านตาขุน พร้อมด้วย พ.ต.ท.อานนท์ อุดมประชารักษ์ สว.สส.ส.ภ.บ้านตาขุน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายธวัชชัย ยมนา อายุ 32 ปี ชาวจ.สุราษฎร์ธานี ได้ที่ ขนำแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพังงา โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมค้อนปอนด์ 1 อัน และชุดที่ใช้ก่อเหตุ

ที่เกิดเหตุใน ต.เขาวง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณรอบข้างบ้าน ไม่มีผู้คนพักอาศัย เป็นบ้านสวน สร้างเป็นบ้านปูนซีเมนต์ 1 ชั้น ประตูหน้าบ้านถูกล็อกเอาไว้อยู่ ใกล้กันจะเห็นว่าแผ่นกระดานไม้อัดขนาดใหญ่ 1 แผ่น ขนาดยาว 2.5 เมตร กว้าง 1.5 เมตร โดยเป็นแผ่นไม้อัดที่ผู้ก่อเหตุ ใช้วางปิดกั้นเอาไว้ เพื่อบังร่างผู้เสียชีวิตบดบังสายตาคน ส่วนไม้อัดอีก 1 แผ่นขนาดเท่ากัน วางเอาไว้อยู่ภายในบ้าน

โดยเบื้องต้น ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุนั้นเป็นเรื่องของการด่าทอบุพการี จึงเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต

และนำผ้าห่มทับร่างผู้เสียชีวิต และใช้กระดานไม้อัด 2 แผ่นวางปิดกั้นเอาไว้ เพื่อป้องกันสายตาสอดส่องเข้ามายังร่างของผู้เสียชีวิต ก่อนจะหนีไปยังจังหวัดพังงา และถูกควบคุมตัวจับได้ในที่สุด

นายชู (นามสมมติ) ชาวบ้าน ระบุว่า ตนเองไม่ทราบเหตุการณ์ หรือได้ยินเสียงอะไร เนื่องจากบ้านตนเองอยู่อีกหลัง แต่ตนเองรู้จัก นายธวัชชัย ยมนา อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลานตนเอง ซึ่งนายธวัชชัยเป็นคนนิสัยดี และตนเองก็ทราบมาว่า นายธวัชชัย พักอาศัยอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว

จนประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ทราบว่านายธวัชชัย พาเพื่อน คือนายจีรพงษ์ เรืองฤทธิ์ อายุ 29 ปี ชาว จ.ระนอง มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ระยะนึ่ง โดยทั้งคู่ก็ทำงานทั่วไป เก็บขยะค้าขาย แทงปาล์มบ้าง หรือแล้วแต่คนจ้าง

ยอมรับว่าตนเองทราบว่านายธวัชชัยไม่เคยดื่มเหล้าสุรา แต่มีพฤติกรรมในการใช้สารเสพติด ยาบ้า เป็นระยะเวลานานหลายปีจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งมีการต้มน้ำกระท่อมผสมดื่มเป็นประจำ ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้นตัวเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าทั้ง 2 คนขัดใจกันเรื่องอะไร เพราะทั้งคู่เที่ยวด้วยกัน ทำงานด้วยกัน แต่ถ้าเป็นประจำ ที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าถูกด่าทอบุพการีนั้นตนเองอาจจะว่าเป็นชนวนเหตุให้เกิดอารมณ์โมโห และโต้เถียงกันก่อนจะพลั้งมือทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต

นางแช่ม ศรีนิล อายุ 66 ปี ป้าผู้ก่อเหตุ ระบุว่า เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายธวัชชัย หลานชายของตนเอง มายืมรถจักรยานยนต์ของหลานสาวตนเอง และขอยืมเงินอีก 40 บาท ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าจะยืมไปทำอะไร ตนเองก็คิดว่าอาจจะยืมไปซื้อของเพียงใกล้ ๆ จนกระทั่งผ่านมาหนึ่งวันหลังจากที่ยืมรถ ก็ไม่เห็นหลานชายนำรถมาคืน จึงได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านที่หลานชายตนเองพักอาศัยอยู่ เมื่อไปดูก็ได้เดินเข้าไปเคาะประตูบ้านไว้หลายครั้งและเรียกหลานชายก็ไม่ออกมา จึงก้มไปดูบริเวณช่องรอยแตกของประตู ก็เห็นเป็นเท้าของคนคนหนึ่ง ซึ่งตนเองก็คิดว่าหลานชายอาจจะหลับอยู่ หรือเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับหลานชาย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงนั้นขอทราบว่าคนที่นอนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ไม่ใช่หลานชายตนเอง แต่เป็นนายจีรพงษ์ เรืองฤทธิ์ อายุ 29 ปี ซึ่งจากที่ชาวบ้านบอกผู้ตายนั้นเป็นเพื่อนกับหลานชายที่เพิ่งจะมาอยู่อาศัยบ้านหลังนี้เพียงแค่ 10 วัน ยอมรับว่าไม่ได้ตกใจอะไรมาก แต่ตนเองนั้นก็ไม่เคยเห็นไม่คุ้นกับผู้เสียชีวิตเลย

ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลานชายเป็นเด็กดี นิสัยดีไม่เคยอาละวาดกับใคร และมีอาชีพรับจ้างทั่วไป เก็บขวด เก็บของขายตามปกติ ตนเองก็ไม่ทราบสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีกับหลานชายตนเองต่อไป เพราะตนเองก็ไม่ประกันตัวอย่างแน่นอน

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่บ้านผู้เสียชีวิตใน อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งงานศพได้ผ่านพ้นไปแล้ว นางสุวรรณา แสงสัย แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ตระเวนทำงานไปเรื่อย ๆ หลายต่อหลายที่ กระทั่งล่าสุด ญาติที่ จ.สุราษฏร์ธานีได้โทรมาบอกว่าลูกชายถูกฆ่าตายแล้ว ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจที่ผู้ก่อเหตุมาทำร้ายลูกชายตนจนเสียชีวิต ซึ่งตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะคนร้ายกระทำโหดร้ายกับลูกชายมา ใช้มีดฟันหัวจนสมองไหล

อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้ลูกชายตายฟรี เพราะหลายชายต้องขาดพ่อ เพราะผู้ตายยังมีลูกชายที่อายุแค่ 12 ปี โดยเจ้าตัวเสียใจมากที่พ่อต้องมาเสียชีวิต