กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นบรรยากาศภายในงานแต่งงานของ นายศุภฤกษ์ ชาญเชิดศักดิ์ หรือ หมอเสือ อายุ 35 ปี หมอพื้นบ้านแผนโบราณ โดยความแปลกที่ไม่เหมือนกับงานแต่งทั่วไป เพราะภายในงานดังกล่าวมีเจ้าสาวมากถึง 3 คน และฝ่ายหญิงยังเป็นผู้หอบสินสอดมาสู่ขอฝ่ายชายด้วย จนกลายเป็นเรื่องที่ชาวเน็ตให้ความสนใจ ตามที่ปรากฏเป็นกระแสวิจารณ์นั้น
ล่าสุดวันที่ 4 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังคลินิกแพทย์แผนไทยหมอศุภฤกษ์ ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี พบว่าเปิดเป็นตึกแถว 4 คูหา รับรักษาผู้ป่วยด้วยยาสมุนไพรแผนไทย ทีมข่าวจึงได้พบกับ นายศุภฤกษ์ หรือ หมอเสือ อาศัยอยู่กับภรรยาคนที่ 3 ส่วนภรรยาคนที่ 1 และ 2 วันนี้ไม่อยู่บ้าน
นางสาวนุชจรินทร์ พันธุ์กาศ อายุ 30 ปี หรือ นาเดียร์ ภรรยาคนที่ 1
นางสาวพิชญา สุรสีห์เรืองชัย อายุ 35 หรือ อิงอร ภรรยาคนที่ 2
นางสาวกวินธิดา กุลภัทรไชยบูรณ์ อายุ 31 หรือ หมวย ภรรยาคนที่ 3
นายศุภฤกษ์ เปิดใจว่า จริง ๆ แล้วพิธีแต่งงานที่เห็นเป็นเรื่องของศาสนาพราหมณ์ที่ตนนับถือ เพราะตามหลักศาสนาแล้วฝ่ายหญิงต้องมาสู่ขอฝ่ายชาย แต่ตนอยู่กินกับภรรยาทั้ง 3 คนมาหลายปีแล้ว การที่จะไปแต่งงานแบบไทยพุทธ ก็ทำไม่ได้ ภรรยาทั้ง 3 คน ซึ่งเก็บสะสมและออมเงินที่ตนให้ทุก ๆ เดือนไว้ และความฝันของผู้หญิงก็อยากเป็นเจ้าสาว รวมกัน จึงพูดคุยกับตนก่อนวันเกิดว่าจะขอแตงงาน ตนก็คิดว่าภรรยาพูดเล่นจึงพูดไปว่า “พวกนี้มันบ้า คิดอะไรก็ทำกัน” ตนจึงบอกว่าถ้าจะแต่งงาน ต้องทำแบบศาสนาพราหมณ์ และฝ่ายหญิงต้องมาสู่ขอฝ่ายชาย
ทั้งนี้ ตนอยู่กินกับภรรยาคนแรก เป็นระยะเวลา 16 ปี จึงมีลูกด้วยกัน 4 คน ส่วนภรรยาคนที่ 2 คบหากัน 9 ปี จึงมีลูก 4 คน และภรรยาคนที่ 3 คบหากัน 7 ปี มีลูก 1 คน นอกจากนี้ก็เป็นธรรมดาที่ภรรยาอยู่ด้วยกัน 3 คนจะทะเลาะกันบ้าง ส่วนพิธีแต่งงานที่เกิดขึ้นนั้น ภรรยาคนที่ 1 ได้ไปขอภรรยาคนที่ 2 จากพ่อแม่ให้ และภรรยาคนที่ 2 ก็ไปขอภรรยาคนที่ 3 ให้ เนื่องจากเป็นประเพณีที่ภรรยาต้องไปขอ ภายหลังจะได้ไม่มีปัญหากัน และแสดงเจตนาว่าไม่ประพฤติผิดในกาม
ส่วนสินสอดทั้งหมด มีดังต่อไปนี้
ภรรยาคนที่ 1 มอบเงินสด 1 กหาปณะ (1 แสนบาท) ทองคำ 16 บาท
ภรรยาคนที่ 2 มอบเงินสด 1 กหาปณะ (1 แสนบาท) ทองคำ 15 บาท พร้อมเครื่องเพชร
ภรรยาคนที่ 3 มอบเงินสด 1 กหาปณะ (1 แสนบาท) ทองคำ 9 บาท ชุดพลอยนพเกล้า และที่ดิน 2 ไร่
อย่างไรก็ตาม ในวันที่แต่งงาน ญาติ ๆ ฝ่ายหญิงก็มากันหมด เพราะก่อนหน้านี้ญาติทุกคนยอมรับได้ และไปมาหาสู่กันกลายเป็นครอบครัวใหญ่ สำหรับเรื่องการแบ่งเวลาตนยอมรับว่า ไม่ค่อยมีเวลาให้ทั้งหมด ส่วนใหญ่จะใช้เวลารักษาคนมากกว่า ภรรยาคนที่ 1 ช่วยปรุงยา ส่วนคนที่ 2 ช่วยตรวจคนไข้ และคนที่ 3 จัดการดูแลทุกอย่างภายในบ้าน นาน ๆ ครั้งจะไปเที่ยวกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ภรรยาชอบไปเที่ยวกับลูก ๆ มากกว่า เวลาจะไปไหนก็จะยกไปกันทั้งหมดครอบครัว ส่วนเรื่องกระแสในโซเชียลฯ ตนก็ปล่อยผ่านไม่ได้คิดอะไร เพราะคนที่เข้ามาคอมเมนต์ไม่ได้รู้เรื่องและเข้าใจในชีวิตครอบครัวของตน
สำหรับค่าใช้จ่ายดูแลภรรยาแต่ละคน มีดังต่อไปนี้
ภรรยาคนที่ 1 15,000 บาท / เดือน ลูก 4 คน คนละ 5,000 บาท
ภรรยาคนที่ 2 15,000 บาท / เดือน ลูก 4 คน คนละ 5,000 บาท
ภรรยาคนที่ 3 15,000 บาท / เดือน ลูก 1 คน 5,000 บาท
น.ส.กวินธิดา กุลภัทรไชยบูรณ์ อายุ 31 หรือ หมวย ภรรยาคนที่ 3 กล่าวว่า ตนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่มานานแล้ว โดยภรรยาของหมอเสือคนแรกอยู่กินกันมา 16 ปี ส่วนภรรยาคนที่ 2 อยู่กินกันมา 9 ปี และตนซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 3 อยู่กันมา 7 ปีแล้ว กระทั่งในวันที่ 30 มีนาคม 65 ที่ผ่านมา เป็นวันคล้ายวันเกิดของหมอเสือ ภรรยาทั้ง 3 คน จึงตั้งใจจะเซอร์ไพรส์สามีด้วยการขอแต่งงาน และให้ของขวัญวันเกิดแสดงความสามัคคีว่า ภรรยาทั้ง 3 คน รักกันดี
สำหรับสินสอดของเจ้าสาวคนแรก เป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาท ทองคำ 16 บาท เจ้าสาวคนที่ 2 เงินสดจำนวน 100,000 บาท ทองคำ 15 บาท และเครื่องเพชร ส่วนตนซึ่งเป็นเจ้าสาวคนที่ 3 เงินสดจำนวน 100,000 บาท ทองคำ 9 บาท เครื่องพลอย เครื่องนพเกล้า และโฉนดที่ดิน 2 ไร่
"ความคิดนี้ เจ้าสาวทั้ง 3 คน คิดวางแผนกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากรอเจ้าบ่าวมาขอแต่งงาน แต่เจ้าบ่าวก็ ๆ ไม่มาขอสักที เจ้าสาวทั้ง 3 จึงปรึกษากัน กระทั่งเป็นฝ่ายรุกไปขอเจ้าบ่าวแต่งงาน ที่โพสต์เรื่องราวลงโซเชียลฯ นั้น ยอมรับว่าตอนแรกสามีก็กังวลเกี่ยวกับคอมเมนต์ และผลที่จะตามมา แต่ก็ขอยืนยันว่าสิ่งที่ทำเป็นการบันทึกความทรงจำไว้ให้กับครอบครัวและลูก ๆ ไม่ได้เป็นการสร้างคอนเทนต์ใด ๆ" น.ส.กวินธิดา กล่าว
สำหรับภรรยาคนแรกของหมอเสือ มีลูก 4 คน ชาย 1 หญิง 3 ภรรยาคนที่ 2 มีลูก 4 คน ชาย 3 หญิง 1 และตนซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 3 มีลูกสาว 1 คน โดยหมอเสือ ก็จะสอนให้ภรรยาทั้ง 3 รู้ถึงหลักศีล 5 ในข้อ 3 ว่าควรเปิดเผย และยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่กระทำลับหลังต่อกัน และผู้หญิงทั้ง 3 คน ก็ไม่ได้ยึดติดว่าความรักต้องมี 2 คน แต่ควรความรักที่เกิดจากคนในเป็นครอบครัว ทำให้พวกตนใช้ชีวิตกันเป็นครอบครัว หมอเสือรู้ว่าควรอยู่กับใครวันไหน จึงไม่ได้มีการแบ่งเวลาที่ชัดเจน และหมอเสือทำให้เห็นว่าเขาแบกรับหลาย ๆ เรื่องที่หนักหน่วงไว้ รวมถึงพวกตนช่วยกันทำบุญ และช่วยเหลือรักษาเด็ก คนแก่ และคนป่วยฟรี
