คดีพลิก! ยายหลับ 9 วันไม่ฟื้น ผัวแฉถูกลูกวางยา ฝั่งลูกฉะพ่อเลี้ยงซ้อมจ่อฟ้องใส่ร้าย (คลิป)

31 มี.ค. 65

กรณีน.ส.มลทิรา บุญยืน หรือ มนต์ อายุ 60 ปี นอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลังจากช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พลัดตกเตียงที่โรงพยาบาลในจังหวัดสุรินทร์ ทำให้มีเลือดออกในสมอง ซึ่งนายกันยา รัฐสมุทร อายุ 61 ปี ผู้เป็นสามี เชื่อว่าอาจมีคุณไสยมนตร์ดำเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากภรรยาเคยเพ้อว่า เคยปัสสาวะแถวศาลเก่าหน้าบ้านที่จังหวัดสุรินทร์

213303

โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ น.ส.มลทิรา เดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ เพื่อไปทำบัตรผู้สูงอายุ แต่เกิดป่วยอ่อนเพลียจึงเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดสุรินทร์ ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุพลัดตกเตียง ศีรษะกระแทงพื้น มีบาดแผลที่ศีรษะด้านซ้ายปูดบวม ในช่วงวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 65 โดยโรงพยาบาลไม่ได้เอกซเรย์สมองแต่อย่างใด 

จากนั้นเมื่อน.ส.มลทิรา กลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 65 น.ส.มลทิรา ก็ประสบอุบัติเหตุล้ม คางและปากกระแทกกำแพง โดยนายกันยา เดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 65 เพื่อไปรับภรรยากลับมาดูแลที่บ้านในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมาถึงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 65 

634681

แต่น.ส.มลทิรา ก็เริ่มมีอาการอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ อีกทั้งยังบ่นว่าปวดศีรษะ กระทั่งวันที่ 20 มีนาคม 65 น.ส.มลทิรา มีอาการท้องเสียบนเตียง 3 รอบ ลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ไหว มีอาการอ่อนเพลียอ่อนแรง จากนั้นน.ส.มลทิรา ก็ได้หลับไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย อีกทั้งร่างกายซีกซ้ายของน.ส.มลทิรา ยังมีอาการเกร็งอยู่ตลอด ในวันที่ 27 มีนาคม นายกันยา ได้พาน.ส.มลทิรา ไปตรวจที่โรงพยาบาลในจังหวัดปทุมธานี แพทย์ได้เอกซ์เรย์และสแกนสมอง จึงพบว่ามีเลือดออกในสมอง ก้อนเลือดกดทับเส้นประสาทและก้านสมอง แพทย์ต้องผ่าตัดในช่วงเช้าของวันที่ 28 มีนาคม 65 

598482

ล่าสุดวันที่ 31 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังโรงพยาบาลปทุมธานี เนื่องจากทราบว่านายกันยา ได้นอนเฝ้าภรรยาทั้งคืน แม้ว่าจะเข้าเยี่ยมไม่ได้ โดยนายกันยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ภรรยาของตนอาการดีขึ้นแล้ว สามารถลืมตาและกระดิกนิ้วได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี ตนประเมินด้วยสายตาให้ 4 เต็ม 10 แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะออกจากโรงพยาบาลในวันใด ตนยังคงเชื่อว่าเกิดจากอาถรรพ์ เนื่องจากเมื่อปี 2515 ยายของตน อายุ 60 ปี ก็เคยนอนหลับไปเป็นเดือน ๆ จากนั้นก็สิ้นใจ คาดว่าคนในครอบครัวน่าจะทำของใส่ เพราะต้องการมรดกที่ดิน

นอกจากอาถรรพ์ที่ภรรยาของตนบอกว่า เขาได้ไปปัสสาวะข้างศาลเก่าที่บ้าน จังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีอีกอาถรรพ์อรกอย่างหนึ่ง เนื่องจากตนชอบเก็บของเก่ามาขาย เช่น มีด เคียวเกี่ยวหญ้า แก้วสแตนเลส หม้อ จาน ตนก็ไม่ทราบได้ว่าอาจจะมีสิ่งลี้ลับแฝงตัวอยู่ในสิ่งของเหล่านี้หรือไม่ หรือหากเหตุทั้งหมดไม่ได้เกิดจากอาถรรพ์ ตนคาดว่าอาจจะเกิดจากครอบครัวของภรรยาตนวางยาภรรยาตน เช่น ให้ยานอนหลับหรือยาแก้ปวดเกินขนาด จึงทำให้ภรรยาของตนล้มป่วยอีกครั้ง เพื่อภรรยาจะได้ไม่เข้าไปวุ่นวายกับการแบ่งที่ดินจำนวน 2 งาน มูลค่าประมาณ 2-5 ล้านบาท เป็นที่ดินเป็นของพ่อแม่น.ส.มลทิรา แต่พ่อแม่เสียชีวิตแล้ว โฉนดจึงเป็นของน.ส.มลทิรา ร่วมกับพี่ ๆ น้อง ๆ 

872182

โดยเหตุผลที่สนับสนุนความคิดของตนในประเด็นวางยา เริ่มต้นจากต้นเดือนกุมภาพันธ์ ภรรยาของตนได้ติดต่อกับสามีเก่า เพื่อขอเงินไปซื้อยารักษาโรค เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งสามีเก่ากับลูกชายคนสุดท้องบอกให้ภรรยาของตนไปพบที่บ้านย่านบางนา จากนั้นภรรยาของตนก็พักอยู่กับลูกชาย แต่จู่ ๆ ภรรยาของตนก็เดินทางไปทำบัตรผู้สูงอายุ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมภรรยาของตนไม่บอกก่อนจะเดินทางไปที่จังหวัดสุรินทร์

898868

จากนั้นเมื่อตนติดต่อกลับไปอีกครั้ง ครอบครัวของภรรยาก็ไม่ยอมให้ตนพูดคุยกัน ทั้งหมดนี้ตนจึงคาดว่าภรรยาของตนถูกลวงไปที่จังหวัดสุรินทร์ ตนคิดว่าจังหวะต่าง ๆ ประจวบเหมาะมากเกินไป ปกติครอบครัวของภรรยาตนไม่เคยนัดเจอกัน แต่ในวันที่ภรรยาของตนเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์ ทุกคนเดินทางมาจากหลายแหล่ง อีกทั้งหลังจากที่ภรรยาของตนหลับไม่ตื่น ก็ไม่เคยมีใครมาเหลียวแล ครอบครัวของภรรยาอาจจะมองว่าตนอยากได้สมบัติของภรรยา แต่ตนไม่เคยคิดเช่นนั้น ตนก็มีที่ดินขายได้หลักล้านที่จังหวัดสุรินทร์ ตนไม่เดือดร้อนเรื่องสมบัติ

"หลังจากที่ยายฟื้น ผมจะรอดูว่าครอบครัวและลูก ๆ ของของเขา จะมาขอโทษผมหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะฟ้องที่กล่าวหาว่าผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้เมียมีเลือดคั่งในสมอง อีกทั้งผมจะพิจารณาฟ้องโรงพยาบาลที่ไม่ดูแลเมียของผมให้ดีจนตกเตียง แล้วมีอาการเลือดคั่งในสมอง กลายเป็นหลับนานหลายวัน" นายกันยา กล่าว 

714831

นายบุญรักษ์ บุญยืน อายุ 39 ปี ลูกชายของน.ส.มลทิรา เปิดเผยว่า บ้านหลังที่ตนอยู่นั้นเป็นที่ดินของแม่จริง ๆ ซึ่งแม่ได้มอบให้ตนเป็นคนดูแลบ้าน สาวยนายกันยา สามีใหม่ของแม่ พยายามกล่าวหาว่าตนและพี่น้องร่วมกันวางยา หรือทำร้ายร่างกายแม่ ทำให้แม่มีอาการเลือดออกในสมองจนต้องเข้าโรงพยาบาล และกล่าวหาว่าพวกตนทำคุณไสยมนต์ดำใส่แม่เพื่อหวังจะฮุบสมบัติทั้งหมด 

ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และตนมองว่านายกันยา คือคนที่ทำให้แม่ของตนเป็นเช่นนี้ และยังแต่งเรื่องต่าง ๆ นานา ตั้งแต่ครั้งแรกว่า แม่เมาแล้วฉี่ใกล้ศาลตายาย ทำให้ถูกผีเล่นงาน ก่อนจะเปลี่ยนมาโยนความผิดให้พวกตนว่า เป็นคนทำร้ายร่างกายแม่หวังจะฮุบสมบัติ ซึ่งจริง ๆ แล้วนายกันยา เป็นผู้ทำร้ายร่างกายแม่จนเข้าโรงพยาบาลหรือไม่

232136

"แม่ผมเดินทางกลับมาที่บ้านจริง ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรวมญาติในรอบ 5 ปี ที่ไม่ได้เจอกันมานาน น้องชายของผมที่อยู่กรุงเทพ เป็นคนเดินทางไปรับแม่ที่บ้านของนายกันยา เมื่อกลับมาบ้านแม่ก็ได้ระบายให้ลูก ๆ ฟังว่าถูกสามีใหม่ทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง และแม่เอาแต่กินเหล้าไม่ยอมกินข้าว กระทั่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ แม่เริ่มมีอาการป่วย ผมจึงโทรเรียกรถพยาบาลเพื่อรับตัวไปรักษา" นายบุญรักษ์ กล่าว 

975763

นอกจากนี้ ตนยืนยันว่าช่วงเวลาที่แม่อยู่กับตนและครอบครัว ไม่มีการทำร้ายร่างกาย วางยา หรือจับแม่ขังไว้ในบ้านเพื่อให้แม่เซ็นโฉนดที่ดินตามที่ถูกกล่าวหา และแม่ก็ไม่เคยเดินไปฉี่รดศาลพระภูมิหน้าบ้านอีกด้วย ส่วนเรื่องที่นายกันยา อ้างว่าที่บ้านหลังนี้มีเสาตกน้ำมันอยู่กลางบ้าน ทำให้เกิดเรื่องไม่ดีกับแม่ก็ไม่จริง เช่นเดียวกับเรื่องที่นายกันยา กล่าวหาว่าพวกตนเป็นคนวางยาแม่ ตนจะไปทำเช่นนั้นทำไม บ้านของตนมีเพียงแค่ยาพารากับยาแก้ไอติดบ้านเท่านั้น หากผลสรุปออกมาว่า แม่ของตนถูกทำร้ายร่างกาย และตนรู้ว่านายกันยา เป็นคนกระทำ ตนก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส