รวบไฟแนนซ์โหดยิงหนุ่มส่งน้ำดับ อ้างฉุนดึงแขนเมีย แม่เหยื่อคาใจแค่ยึดรถต้องฆ่า (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลพบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณริมถนนด้านหลังสำนักงานประปาลพบุรี ซอยศรีสุริโยทัย 2 ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พบรถกระบะสีขาว ทะเบียน 2 ฒภ 6645 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่มีคราบเลือดติดที่บันไดประตูฝั่งคนขับ

ทั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายถูกนำตัวส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช ทราบชื่อต่อมา นายพีระพัฒน์ คำภูเวีย อายุ 23 ปี ชาวต.ท่าแค อ.เมืองลพบุรี และนายธีรพันธ์ ทัตธนนท์นัทธ์ อายุ 35 ปี ชาวต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี ทั้งคู่ถูกยิงเข้ากลางหลัง กระสุนทะลุหน้าอก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาภายหลังได้รับแจ้งว่า นายธีรพันธ์ เสียชีวิต

ขณะที่ผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายสัญญา เสือน้อย อายุ 51 ปี พร้อมด้วย นางสาวสุรีวัลย์ กิจเฉลา อายุ 41 ปี ทั้งคู่อ้างตัวเป็นพนักงานของบริษัทไฟแนนซ์ให้มายึดรถ แต่ทั้ง 2 ฝ่ายกลับมีปากเสียงกันทำให้คุยกันไม่ลงตัว จึงเกิดเหตุการณ์นองเลือดดังกล่าว หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวที่สภ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี จะเดินทางไปรับตัวมาสอบสวน และแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ล่าสุดวันที่ 27 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เกิดเหตุ สอบถามนายจาตุรงค์ (นามสมมติ) คนที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ปกติบริษัทส่งน้ำคันที่เกิดเหตุนั้น จะมาส่งน้ำเปล่าและน้ำแข็งที่ร้านขายเหล้าใกล้กับที่เกิดเหตุเป็นประจำ ๆ ตนไม่มั่นใจว่าจะใช่รถคันเดิมทุกวันหรือไม่ แต่พนักงานที่มาส่งนั้นจะเปลี่ยนหน้าไม่ซ้ำ และตนก็ไม่คุ้นหน้ากลุ่มคนที่ได้รับบาดเจ็บ หรืออาจจะเพิ่งมาทำงานใหม่หรือไม่

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปช่วงที่เกิดเหตุ กลุ่มคนส่งน้ำที่เดินทางมาด้วยกันประมาณ 3 คัน ขับมาส่งน้ำตามปกติช่วงเย็น จู่ ๆ ก็มีชายหญิงคู่หนึ่ง ขับรถมาจอดในจุดใกล้เคียง ก่อนที่จะลงไปพูดคุยกับทางกลุ่มคนส่งน้ำ เป็นการพูดคุยสลับทะเลาะวิวาทเสียงดัง นานกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งวินาทีที่ผู้หญิงที่อ้างตัวว่าเป็นไฟแนนซ์ ขึ้นไปยังรถที่จะยึด ทำให้กลุ่มคนที่ขับมารู้สึกไม่ปลอดภัย ตัดสินใจดึงหญิงสาวคนดังกล่าวลงมา เมื่อผู้ชายอีกคนที่อ้างตัวว่าเป็นไฟแนนซ์เห็น ก็เลยรู้สึกไม่พอใจ ก่อนจะชักปืนยิง 3 นัด โดน 2 คน โดยคนแรกโดน 2 นัด อีกคนโดน 1 นัดด้านหลัง คนที่โดน 2 นัดนอนจมกองเลือดตรงข้างรถ ขณะที่คนที่โดนยิง 1 นัด มีแรงวิ่งหนีไปแอบตรงหน้าร้านเหล้า ก่อนที่เพื่อน ๆ จะเข้ามาช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล

ต่อมาทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นางเกวริน ทัตธนนท์นัทธ์ อายุ 63 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนยอมรับตกใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.65) ช่วงเวลา 15.00 น. ก่อนที่ลูกชายจะออกไปทำงานนั้น เขายังอ้อนให้ตนทำมะม่วงน้ำปลาหวาน และยังพูดคุยกันตามปกติ ไม่มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องร้าย ทั้งนี้ ปกติแล้วลูกชายของตนเพิ่งจะมาทำงานขับรถขนส่งน้ำได้ประมาณ 4 เดือน ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ลูกชายของตนเป็นคนตั้งใจทำงาน หาเลี้ยงตนที่ป่วยเพิ่งผ่าขายังเดินไม่ค่อยได้

ทั้งนี้ เพื่อนร่วมงานที่ทราบเรื่อง เล่าให้ตนฟังว่า ช่วงที่ลูกชายขับรถของบริษัทไปส่งน้ำ จู่ ๆ ก็มีชายหญิงคู่หนึ่ง อ้างเป็นไฟแนนซ์เข้ามายึดรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวไม่ใช่ของลูกชาย เลยไม่ยอมให้นำรถไป เนื่องจากเป็นแค่พนักงานไม่สามารถตัดสินใจได้ จึงติดต่อไปหาเจ้าของบริษัทให้มาเคลียร์ ในระหว่างที่ตัวแทนบริษัทเดินทางมาถึง ไฟแนนซ์พยายามแย่งกุญแจรถไปให้ได้ โดยที่ผู้หญิงพยายามจะขึ้นไปบนรถและดึงกุญแจ จึงยื้อยุดกันซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ไฟแนนซ์ฝั่งผู้ชายชักปืนออกมายิงใส่

อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่ารถคันเกิดเหตุ ไม่ใล่รถของลูกชาย แต่เป็นรถของบริษัทที่ลูกชายไปทำงาน ซ้ำเขาตั้งใจจะไปช่วยห้ามแต่สุดท้ายกลับมาโดนยิงเสียชีวิต ตนอยากจะถามคนก่อเหตุว่าจิตใจเขาทำไมโหดร้ายขนาดนี้ ทำไมถึงต้องฆ่ากัน ทั้งที่เรื่องไม่ได้เกี่ยวกับลูกชายของตน ตนจึงอยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะลูกชายของตนเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเงินดูแลตน หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าตนจะอยู่อย่างไร 

"อยากถามอีกฝ่ายว่า ลูกแม่ไปทำอะไรให้ ทำไมถึงทำกับลูกแม่ขนาดนี้ วงที่ไปดูศพก็เข้าไปกอดและลูบหัว พูดกับเขาว่า ดวงใจของแม่ พรุ่งนี้ทางครอบครัวจะนำร่างออกจากโรงพยาบาล เพื่อมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาที่วัดเขาพระงาม เป็นเวลา 3 วัน ก่อนจะฌาปนกิจศพ" แม่คนตาย กล่าว 

พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มไฟแนนซ์ที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่งให้ติดตามทรัพย์ กระทั่งพบรถที่ติดตามคันดังกล่าวที่มีคำพิพากษาแล้ว จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจยึดเข้าเจรจากัน แต่ด้วยการเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายไม่สำรวจ จึงกระชากฝ่ายหญิงที่มายึดรถให้ลงจากรถจนเกิดเหตุบานปลายขึ้น

หลังจากนั้น ฝ่ายชายเห็นว่าผู้หญิงซึ่งเป็นภรรยาถูกรุมทำร้าย จึงวิ่งกลับไปที่รถหยิบอาวุธปืนออกมายิงเข้าใส่กลุ่มชายส่งน้ำ จำนวน 3 นัด ทำให้กระสุนถูกได้รับบาดเจ็บไป 2 คน และเสียชีวิตภายหลัง 1 คน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าตำรวจได้ติดตามตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานในที่เกิดเหตุ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสัญญา เสือน้อย เบื้องต้นได้ขับรถหนีแล้วไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การภาคเสธ อ้างว่าเรื่องการยิงปืนนั้นเป็นการยิงป้องกันตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย สำหรับเรื่องการยึดรถของบริษัทต่าง ๆ นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำขอให้ทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด หากตกลงกันไม่ได้แนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ เพื่อให้เข้าตรวจสอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องบานปลายเช่นนี้ ทั้งนี้ ญาติผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 3 แสนบาท ขอประกันตัวนายสัญญา ไปเรียบร้อย