คดีพลิก! เจ้าของร้านทองสารภาพยิงลูกค้าดับ คิดว่าก๊วนโจร รุดขมาศพเยียวยาเมีย (คลิป)

สืบเนื่องจากเหตุการกรณี 3 คนร้าย บุกปล้นร้านทองใน อ.พบพระ จ.ตาก ยิงลูกค้าเสียชีวิต 1 ราย กวาดทองคำหนัก 187 บาท แล้วหลบหนีไปทางชายแดนพบพระ พื้นที่ สภ.พบพระ จ.ตาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ระดมกำลัง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ออกไล่ล่าคนร้าย เบื้องต้นจากข้อมูลพบหลักฐานคาดว่าคนร้ายบางส่วนได้หลบหนีไปยังประเทศเมียนมาแล้ว จึงประสานไปยังกองกำลังเจ้าของพื้นที่ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

ล่าสุดความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 65 มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม 1 ในผู้ร่วมขบวนการปล้นร้านทองได้แล้ว ทราบชื่อ นายวรพงษ์ แซ่ท้าว อายุ 20 ปี ถือบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เป็นผู้ร่วมขบวนการ มีหน้าที่จัดหาอาวุธ และเป็นคนทำหน้าที่ขับรถโตโยต้า วีโก้ ทะเบียน บธ 5330 ตาก ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้หลังพบถูกจอดทิ้งไว้บริเวณฝายท้ายหมู่บ้านยะพอ หมู่ 5 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก

โดยทำหน้าที่ขับรถคันดังกล่าวไปรับกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ หลังนำรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บง 1910 กำแพงเพชร ที่ใช้ก่อเหตุไว้จอดทิ้งในพื้นที่บ้านผากะเจ้อ หมู่ 9 ต.พบพระ อ.พบพระ ก่อนจะหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.พบพระ

ขณะเดียวกันที่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้ออกหมายจับ กลุ่มผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุอีก 3 คน ที่อยู่ระหว่างหลบหนีประกอบด้วย นายวิชัย แซ่ว่าง อายุ 31 ปี, นายเต้อ แซ่ท้าว อายุ 23 ปี และนายคึ แซ่ท้าว อายุ 22 ปี โดยทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป โดยมีอาวุธปืนและใช้อาวุธปืน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, ยิงปีนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน

ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นพบพฤติการณ์ว่าทางด้านทาง "นายคึ" ทำหน้าที่ขับรถยนต์ไปก่อเหตุ และยิงอาวุธปืนเข้าไปในร้านทองก่อนเข้าปล้น, นายวิชัย หรือ เต๋อ ทำหน้าที่ใช้ค้อนตีกระจกร้านทองให้แตกก่อนเข้าปล้นแล้วชิงทองรูปพรรณ และนายเต้อ อายุ 23 ปี ใช้อาวุธปืนข่มขู่ และชิงทองรูปพรรณก่อนกระโดดขึ้นท้ายรถยนต์กระบะหลังก่อเหตุ

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีอีกประเด็น หลังพบลูกค้าร้านทองที่เข้าไปใช้บริการขณะที่กำลังเกิดเหตุ ก่อนจะมีกระสุนปริศนายิงทะลุหน้าอกทำให้ นายชิ อากา อายุ 30 ปี ชาวพม่า เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ภรรยาผู้ตายจึงได้มีการเรียกร้องให้ทางเจ้าของร้านทองรับผิดชอบกรณีที่สามีของเจ้าตัวโดยยิง เนื่องจากทางเจ้าตัวยืนยันว่ากระสุนที่ทะลุร่างของสามีนั้นมาจากฝั่งเจ้าของร้าน

นายศราวุฒ อยู่แก้ว เจ้าของร้านทอง เปิดใจเล่าเหตุการณ์ว่า ตอนนั้นเองตนอยู่บริเวณหลังบ้าน ภรรยาและลูกสาวกำลังขายทองอยู่หน้าร้าน คนร้ายเข้ามาตามข่าว หลังจากนั้นทางภรรยาและลูกสาวได้วิ่งหนีเข้ามาในบ้านก่อนจะล็อกประตูจากด้านใน ด้วยความตกใจไม่ทันคิดว่ายังมีลูกค้าอยู่หน้าร้าน 2 คน ตนเองด้วยความที่ไม่เห็นเหตุการณ์ หวังแค่ต้องการป้องกันตัว ตัดสินใจยิงปืนสวนไปจากประตูกระจกด้านในจำนวน 1 นัด โดยที่ไม่ทราบว่ามีลูกค้าหลบอยู่ในจุดที่ตนเองยิงไป

เมื่อโจรขึ้นรถหนีไปก็เลยตัดสินใจเปิดประตูออกไปดู พบมีคนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ตอนนั้นตนไม่ทราบว่าเป็นโจรหรือลูกค้า แต่ด้วยความที่เขาเองได้รับบาดเจ็บ ตนเลยพยายามโทรหารถพยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาช่วยเหลือก่อน ตนยอมรับว่าวินาทีนั้นตนไม่รู้ว่ากระสุนที่คนตายโดนยิงนั้นจะมาจากฝั่งของตนหรือฝั่งคนร้าย ไม่สามารถตอบได้ รอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชันสูตรหรือพิสูจน์ก่อน ยืนยันว่าหากเป็นกระสุนที่มาจากตน ตนพร้อมรับผิดชอบ แต่ทางอีกฝ่ายกลับไม่ยอมเจรจาหรือพูดคุยด้วย ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด

ที่กระเเสข่าวว่าตนไม่ช่วยเหลือนั้นไม่เป็นความจริง เพราะผู้เสียชีวิตเองก็เป็นลูกค้าของตน ต่อให้เขาไม่โดนกระสุนจากฝั่งตน ตนก็ต้องรับผิดชอบ แต่จะให้ตนเป็นคนประเมินมูลค่าความสูญเสียจากตนเองก็คงไม่ได้ อยากให้อีกฝ่ายมาคุยและตกลงกันจะดีกว่า ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็เสียใจ และเข้าใจคนที่สูญเสียเช่นกัน เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนเองก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ ส่วนที่หลายคนมองว่าตนเป็นร้านทองแล้วมีประกัน ในส่วนนี้ตนอยากจะบอกว่าทองของตนไม่ได้ทำประกัน หนำซ้ำยังติดเครดิตเจ้าของทองรายใหญ่ที่กรุงเทพฯ เพราะเพิ่งจะไปเอาทองมาได้ 2 วันก่อนจะเกิดเหตุ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะสังเกตการณ์มาก่อนหน้านี้

ด้านนางติ่นหม่า วิน เปิดใจว่า วันนั้นเองส่วนตัวตั้งใจจะมาหาลูกในพื้นที่ใกล้เคียงกับเขตรอยต่อชายเเดน ก่อนจะถึงบ้านตนได้ตัดสินใจแวะซื้อทองคำรูปพรรณ เพื่อหวังจะนำไปฝากลูกชายวัย 2 ขวบ โดยเตรียมเงินไว้ 8,000 บาท ขณะที่เข้าไปภายในร้านได้ประมาณ 4-5 นาที ก็มีคนร้ายบุกเข้ามาภายในร้านทอง จังหวะนั้นเองตนและสามีก็ตกใจและพยายามวิ่งหนี เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทางเจ้าของร้านทองเองได้วิ่งเข้าไปภายในร้านก่อนล็อกประตู ทำให้ตนไม่สามารถหนีเข้าไปภายในร้านได้

เจ้าของร้านทองได้มีการยิงสวนออกมา 1 นัด คาดว่าเป็นจังหวะเดียวกับที่สามีตนกำลังลุกขึ้นยืนเพื่อจะหนี แต่สุดท้ายกระสุนเลยพลาดไปโดนทางสามีของตน ส่วนคนร้ายที่มาปล้นทองนั้น ไม่ได้ทำร้ายหรือยิงเข้ามายังตนและสามี เพราะเขาเองปล้นทองไป โดยที่ไม่สนใจตนแต่อย่างใด เชื่อว่ากระสุนที่โดนสามีน่าจะมาจากลูกหลงภายในร้านทอง ตนเองก็มาเรียกร้องขอความคืบหน้าของคดี ตนไม่ทราบว่าเจ้าของร้านทองตั้งใจหรือไม่ตั้งใจในการยิงสามีของตน ทั้งที่ตนเองไม่ได้ใส่หมวกหรือใส่ไอ้โม่งแต่อย่างใด ยอมรับว่าทางเจ้าของร้านทองเองได้ติดต่อมาขอโทษและแสดงความเสียใจแล้ว

ต่อมาเวลา 18.50 น. นายศราวุฒ อยู่แก้ว เจ้าของร้านทอง ได้เดินทางมายังวัดพระธาตุสันป่าตึง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของ นายชิ อากา ผู้เสียชีวิต เจ้าของร้านทองพร้อมด้วยญาติได้เดินทางมาจุดธูปกราบศพ ก่อนที่จะมีการมอบเงินช่วยเหลือกับทางนางติ่นหม่า วิน ภรรยาของผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนหนึ่ง พร้อมยืนยันว่าจะรับผิดชอบและช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่