แม่ถึงกับเข่าทรุด! กลับมาเยี่ยมบ้านพบสิ่งของภายในบ้านถูกลูกชายงัดไปขายจนเกลี้ยง เหลือไว้เพียงพระพุทธรูป โต๊ะชุดหมู่บูชา เสื่อ 5 ผืน และครกหิน 1 ใบให้ดูต่างหน้า ตัดใจขอแจ้งจับเอาผิดแม้จะเป็นลูกในไส้
ร.ต.ท.พิทวัส กาญจนารี รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธรรับแจ้งเหตุลูกชายลักขโมยสิ่งของภายในบ้านไปขาย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธร ที่เกิดเหตุเป็นภายปูนชั้นเดียวพบนางชนัญญา จันแก้ว อายุ 56 ปี อาชีพแม่ค้าขายเนื้อหมูที่ตลาดสดใน กทม.ซึ่งนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่หน้าบ้าน โดยมีญาติพี่น้องเข้ามาปลอบใจตลอดเวลา
หลังจากที่เดินทางกลับจาก กทม.เพื่อมาดูแลบ้าน ซึ่งเมื่อมาถึงบ้านแทบกับเข่าทรุดเนื่องจากบ้านที่สร้างไว้หลังละเกือบ 2 ล้านบาทถูกลูกชายซึ่งเป็นผู้อยู่ดูแลบ้านได้ตัดเหล็กประตู หน้าต่างอะลูมิเนียม ลูกกรงสเตนเลส เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ทีวี เหล็กและหลังคาโรงจอดรถ และของใช้ต่างๆ ภายในไปขายจนหมดเกลี้ยง ซึ่งเหลือไว้เพียงพระพุทธรูป, โต๊ะชุดหมู่บูชา, เสื่อ 5 ผืน และครกหิน 1 ใบให้ดูต่างหน้า
นางชนัญญาเล่าทั้งน้ำตาว่าตนไปประกอบอาชีพค้าขายที่ตลาดสดใน กทม.ได้ประมาณ 20 ปี กระทั่งเมื่อปี 2560 ตนได้กลับมาสร้างบ้านให้ลูกชายอยู่ที่บ้านเกิดในยโสธรโดยใช้เงินประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งตนจะกลับมาดูแลบ้านปีละ 2 ครั้ง ซึ่งบ้านก็เป็นปกติ โดยให้ลูกชายเข้ามาอยู่อาศัยซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเมื่อเช้านี้ตนเดินทางมาถึงบ้านพบกับสภาพบ้านที่พบแทบไม่เหลืออะไรเลย โดยยอมรับว่าลูกชายตนชื่อนายสุพจน์ สุรกุลเกรียงไกร อายุ 37 ปี ได้ตกเป็นทาสยาเสพติดวันนี้ได้กลับมาเห็นสภาพแล้วแทบล้มทั้งยืนจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตามจับกุมลูกชายของตนและผู้รับซื้อเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามตัวของนายสุพจน์เพื่อมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป