แฉพ่อเลี้ยงโหดซ้อมลูก 3 ขวบตาแตก เมียป้องผัวใหม่รักเด็ก โต้เจ็บเพราะล้มเอง (คลิป)

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปภาพและคลิปวิดีโอ ซึ่งปรากฏภาพด.ญ.อายุ 3 ขวบ มีเลือดไหลออกมาจากดวงตา พร้อมระบุข้อความว่า “เด็กอายุ 3 ขวบ พ่อกะเเม่เเยกทางกัน เเม่ไปมีผัวใหม่ เลยเอาหลานผมไปอยู่ด้วย ผ่านไป 3-4 เดือนไปรับหลานกลับมา ก็อยู่ในสภาพที่ดูเหมือนไม่ใช่คน เลือดออก ตาลอย ช้ำเต็ม หัวปูด ตัวเด็กมันไม่โกหกหรอกครับ พ่อเลี้ยงเขาเป็นอาสาสมัครครับ #แชร์หน่อยครับน่าสงสารมาก”

ล่าสุด วันที่ 30 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่หอพักแห่งหนึ่ง เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยนายจตุพล อิ่มสุข อายุ 25 ปี พ่อของเด็ก เปิดเผยว่า ตนได้พยายามติดต่อแม่เด็ก เพื่อที่จะพูดคุยกับน้องข้าวเม่า อายุ 2 ปี 11 เดือน ลูกสาว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งวันที่ 24 ม.ค.65 ตนจึงออกไปตามหาลูกสาว เวลาประมาณ 20.00 น. ตนตามจนเจอบ้านแฟนใหม่ของฝ่ายหญิง ขณะนั้นทั้ง 3 คนกำลังนั่งเล่นกันอยู่ แต่เมื่อตนเข้าไปดูพบว่า ลูกสาวมีรอยช้ำทั่วทั้งร่ายกาย และที่ดวงตามีเลือด ตนจึงพยายามสอบถามสาเหตุ แต่แม่เด็กอ้างว่า ลูกสาวเดินไปชนสิ่งของจนเป็นแผล

แต่ตนมองว่าเป็นไปไม่ได้ และพยายามจะพาไปหาหมอ แต่แม่เด็กไม่ยอม ตนจึงอาศัยจังหวะให้คนที่มาด้วยกันกับตน อุ้มเด็กขึ้นรถและพาเด็กไปหาหมอ จากกการวินิจฉัยของแพทย์ พบว่ามีรอยช้ำทั่วทั้งร่างกาย บริเวณลำคอมีรอยนิ้วมือ ส่วนดวงตาที่มีเลือดสีแดง คล้ายกับโดนแรงกด จนทำให้เลือดขึ้นตา ตนจึงไปเค้นถามแม่ของเด็กอีกครั้ง เขาอ้างว่าแฟนใหม่เผลอใช้มืองัดหน้า และเล่นแรงจึงเป็นรอยดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ปักใจเชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว และตั้งข้อสงสัยว่าสาเหตุที่มีรอยช้ำอาจจะเป็นเพราะแม่เด็กกำลังตั้งครรภ์ และน้องข้าวเม่าไปกระโดดใส่ท้อง จึงทำให้ฝ่ายหญิงโมโห และก่อเหตุกับลูกตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ช่วงที่น้องข้าวเม่าอยู่กับแม่ ตนจะวิดีโอคอลไปคุยเล่นด้วยตลอด มักจะเห็นรอยช้ำตามตัวของเด็ก เมื่อสอบถามก็ได้รับคำตอบว่า "ลูกวิ่งชนสิ่งของ" ทั้งนี้ ตนอยากจะให้แม่ของเด็กออกมายอมรับความจริง และตนอยากจะนำลูกสาวกลับมาเลี้ยงเอง เพราะจากการสอบถามน้องข้าวเม่า เด็กก็บอกว่าอยากอยู่กับตน 

ทีมข่าวเดินทางมาที่ซอยเทอดไท 33 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านพักของพ่อเลี้ยง พบลักษณะเป็นบ้านแถว 3 ชั้น ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับนางสาวเพชร (นามสมมติ) อายุ 19 ปี แม่ของเด็ก เปิดเผยว่า ตนกับพ่อเด็กเลิกกันมาประมาณ 5-6 เดือนแล้ว ก่อนที่ตนจะคบหากับแฟนใหม่ จึงขอลูกมาเลี้ยงเอง เพราะพ่อเด็กทำงานเป็นคนขับรถประจำทาง และเด็กจะต้องอยู่กับย่าในห้องเช่า ซึ่งตอนที่ตนรับมาเลี้ยงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และพ่อเด็กก็ไม่เคยมาหา และทำเพียงแค่วิดีโอคอลมาพูดคุยเฉย ๆ

ทั้งนี้ ตนตั้งครรภ์กับแฟนใหม่ได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว ส่วนร่องรอยตามร่างกายที่พ่อเด็กกล่าวอ้างว่า แฟนใหม่ของตนทำร้ายนั้นไม่เป็นความจริง และตนเคยชี้แจงให้พ่อเด็กฟังหลายครั้งแล้ว โดยสาเหตุที่มีเลือดออกจากดวงตา เพราะวันปีใหม่ที่ผ่านมา ที่บ้านได้จัดงานวันปีใหม่ และมีการตั้งเวทีให้กลุ่มเด็กเต้น ขณะที่น้องข้าวเม่า กำลังเต้นได้พลัดตกจากเวที ทำให้เส้นเลือดฝอยในดวงตาทั้ง 2 ข้างแตก

จากนั้นตนจึงพาไปหาหมอที่อนามัย แต่ยาที่หมอให้มาค่อนข้างขม น้องข้าวเม่าจึงไม่ค่อยยอมกิน ทุกครั้งที่จะกินเลยต้องบีบปากเพื่อป้อนยา ทำให้มีรอยนิ้วมือดังกล่าว ส่วนรอยช้ำตามร่างกายเกิดจากเด็กมักจะวิ่งเล่นและหกล้มบ่อยครั้ง ซึ่งตนก็อธิบายให้พ่อเด็กฟัง กระทั่งวันที่ 24 ม.ค.65 พ่อเด็กเข้ามาหาและสอบถามเรื่องเลือดออกตา ตนก็พยายามอธิบายว่าเด็กตกเวทียังไม่หายดี แต่พ่อเด็กก็ยังดึงดันว่าจะพาไปหาหมอเอง ก่อนจะพากลุ่มคน 7-8 คนมาอุ้มเด็กออกไปจากบ้าน

"วันนี้หนูได้เจรจากับพ่อเด็กแล้ว และยินยอมที่จะให้เขาเลี้ยงลูก เพราะเกรงว่าหากเรื่องไปถึงศาล เด็กจะต้องไปอยู่มูลนิธิ ซึ่งเด็กจะต้องพรากจากพ่อแม่ ทั้งที่พ่อแม่พร้อมจะดูแล แต่หนูมีข้อแม้ว่า ห้ามกีดกันไม่ให้เจอลูก หนูคิดถึงลูกมากเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด และไม่เคยทำร้าย ส่วนเรื่องคลิปที่อีกฝ่ายสอบถามว่าใครทำลูก และลูกของหนูพูดว่าไอซ์นั้น หนูก็รู้สึกสงสัยเหมือนกัน เพราะลูกของหนูเรียกแฟนใหม่ว่า พ่อ ไม่ได้เรียกว่า ไอซ์" แม่ของน้องข้าวเม่า กล่าว 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเอกณัฐ ลีลายุทธ อายุ 19 ปี พ่อเลี้ยง กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องตนพยายามโทรศัพท์ไปหาพ่อเด็ก แต่เขาไม่ยอมรับสาย จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน กรณีที่มีการโพสต์พาดพิงว่า ตนทำร้ายเด็ก ถ้าตนทำจริงตนคงจะหลบหนีไปแล้ว สำหรับรอยช้ำเกิดจากที่เด็กไม่ยอมกินยา และฟันผุ ตนกับแม่เด็กเลยต้องช่วยกันจับปากเพื่อป้อนยา แต่ระหว่างนั้นเด็กก็ก้มหน้า ตอนที่จับให้อ้าปากเลยทำให้เกิดแรงต้าน และเป็นรอยช้ำดังกล่าว

สำหรับคลิปวิดีโอที่น้องข้าวเม่าเรียกตนว่า ไอซ์ ตนก็งงเหมือนกันว่า ทำไมพูดแบบนั้น เพราะน้องข้าวเม่าจะเรียกคนว่าพ่อ ส่วนเรื่องที่พ่อเด็กกล่าวหาว่า หลังจากเกิดเรื่องหน่วยงานได้เรียกไปสอบสวน และทุกคนได้อธิบายรอยแผลดังกล่าวว่า เกิดจากการบีบปากให้เด็กกินยา ซึ่งพอพ่อเด็กทราบว่า ฝั่งของตนให้เหตุผลเช่นนี้ ก็นำคำพูดไปอ้างอิง ทั้งนี้ ตนทำงานจิตอาสามากว่า 7-8 ปี ส่วนใหญ่คนที่รู้จักตนก็จะเข้าใจเรื่องราวว่า อาจจะเป็นการเข้าใจผิด แต่คนที่ไม่รู้จักก็อาจจะมีการโจมตี จนทำให้ตนได้รับผลกระทบบ้าง แต่ส่วนตัวบริสุทธิ์ใจและพร้อมที่จะให้ตรวจสอบทุกอย่าง