ศรัณย์วุฒิ จวก ประยุทธ์ แก้ปัญหาของแพงไม่ได้ก็ออกไป น้ำมันต้องลดลงลิตรละ 5 บาท ค่าไฟฟ้าแก๊สหุงต้ม ราคาต้องลดลง 30% จี้! เอางบกองทัพจัดซื้ออาวุธมาปรับลดหนี้หรือเติมเงินช่วยประชาชน อยากให้รัฐบาลชุดนี้และเจ้าสัวอดตาย ให้คนไทยทั้งแผ่นดินหลุดจากวิกฤต วันอภิปรายเจอกันแน่ 3 ป.
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 65 ที่บริเวณตลาดสดบ้านหม้อ ต.บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ตลาดแห่งใหญ่ในพื้นที่ตำบลบ้านหม้อ นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ส.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติทีมงาน ส.ส.และผู้บริหารท้องถิ่นอบต.บ้านหม้อ ร่วมลงพื้นที่ตลาดสดสอบถามปัญหาสินค้าราคาแพง โดยเฉพาะ เนื้อหมูสด ที่ขายอยู่ในตลาดมีราคาแพง ส่งผลทำให้ราคาไก่สดและไข่ไก่มีราคาแพงตามขึ้นไปด้วย ทำให้เมนูอาหารตามสั่งที่เกี่ยวกับหมูและไข่ไก่ถูกปรับขึ้นทุกรายการจากราคาจานละ 40 บาทเป็น 50 บาทแต่ราคาข้าวสารและผลผลิตทางการเกษตรชนิดอื่นราคากลับตกต่ำลงส่งผลกระทบต่อประชาชนเรื่องค่าครองชีพที่นับวันสูงขึ้น รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายในปัจจุบัน
โดยนายศรัณย์วุฒิ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เดินปราศรัยสอบถามชาวบ้านพบว่านอกเหนือจากราคาหมูสดไก่สดและไข่ไก่ถูกปรับให้ขึ้นราคาแล้วต้นตอปัญหาที่ทำให้สินค้าชนิดอื่นราคาแพงสูงขึ้นไปมากคือ ค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมัน ทั้ง ดีเซลและเบนซิน ที่ถูกปรับสูงขึ้นทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก สินค้าทุกชนิดถูกบวกด้านขนส่งเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวแต่ค่าครองชีพกลับตกต่ำลง เงินที่มีอยู่ซื้อสินค้าได้ในปริมาณน้อยลงจากที่เคยซื้อได้มาก
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติได้แวะสอบถามราคาเนื้อหมูจากแม่ค้าร้านน้ำผึ้งหมูสดว่า ตอนนี้หมูขึ้นราคาจริงหรือไม่ แม่ค้าตอบว่า ใช่พร้อมอธิบายว่าเนื้อหมูราคากิโลกรัมละ 200 บาทจากเดิมราคากิโลกรัมละ 160 บาทถูกปรับขึ้นมาจากเดิม ปกติกิโลกรัมละ 40 บาท
โดยนายศรัณย์วุฒิได้สั่งซื้อเนื้อหมูจำนวน 2 กิโลกรัมด้วยการเลือกหยิบชิ้นเนื้อหมูขึ้นมาโชว์ต่อหน้าผู้สื่อข่าวก่อนส่งให้แม่ค้าได้ชั่งน้ำหนักบนกิโลดิจิตอลพร้อมจากเงินสดให้กับแม่ค้าไปในราคา 500 บาทไม่ต้องทอนเงินกลับมา แม่ค้าพูดถึงหมูถูกปรับราคาขึ้นทำให้ขายได้น้อยลง ลูกค้าหันไปบริโภคเนื้อปลารวมถึงผักสดแทนเนื่องจากราคาถูกกว่าหมู เรียกร้องให้ผู้แทนของประชาชนช่วยนำปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันแพง และค่าแก๊สหุงต้มไปอภิปรายในสภาด้วยเพื่อชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวกับชาวบ้านว่า สาเหตุเกิดจากนายทุนใหญ่เจ้าสัวอยู่เบื้องหลัง ทำให้สินค้าราคาแพง จะนำปัญหาดังกล่าวไปอภิปรายในสภาอยากฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ประชาชนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส
พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรอยู่ ปรับขึ้นทั้งน้ำมันไฟฟ้า แก๊สหุงต้มในความเป็นจริงต้องลดราคาเช่นน้ำมัน สามารถลดได้ลิตรละ 5 บาท ค่าไฟฟ้า แก๊สหุงต้มอย่างน้อยลดลง 30% เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นภาระของประชาชน
นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่าขอเตือนคุณประยุทธ์อย่าได้ทำร้ายประชาชนคนไทยต่อไปอีกเลย ปล่อยให้สินค้าขึ้นราคาอย่างไม่มีความชอบธรรมและวันนี้คนไทยเป็นหนี้เป็นสินทั้งบ้านทั้งเมือง รัฐบาลไม่ได้แก้หนี้สินอย่างที่ประกาศ ควรหยุดดอกเบี้ยพักหนี้ที่ 3 ปี หากเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น เงินต้นลดได้ไหมเพราะปัญหาหนี้สินเกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาล รัฐบาลต้องรับผิดชอบ หากคุณประยุทธ์ทำไม่ได้ก็สมควรออกไป ให้คนเก่งๆ ที่เขาสามารถช่วยประชาชนได้จะได้เข้ามาทำแทน ก่อนที่ประชาชนจะตายกันทั้งบ้านทั้งเมือง
นายศรัณย์วุฒิกล่าวด้วยว่ารู้สึกหดหู่ใจ เจ็บปวดแทนประชาชนคนไทยต้องแบกภาระหนักมากในภาวะราคาสินค้าแพง นายทุนเจ้าสัวผูกขาดกอบโกยประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชนโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปล่อยให้มารังแกเศรษฐกิจพังพินาศโควิด-19 ยังคงระบาด ประชาชนเดือนร้อนทั้งแผ่นดินแต่ทำไมรัฐบาลยังจัดงบไปซื้ออาวุธที่เรียกว่างบพัฒนากองทัพร่วมกว่าแสนล้านบาท โดยเฉพาะซื้อเครื่องบิน F35 จำนวนกว่า 13,000 ล้านบาท
หัวหน้าพรรคเพื่อชาติกล่าวว่านอกจากนี้ยังมีอาวุธอย่างอื่นอีกที่แฝงในงบอื่นๆ เหตุใดไม่เอางบประมาณเหล่านี้มาช่วยเหลือประชาชนพัฒนาเศรษฐกิจไม่ใช่ไปผลาญเพื่อพัฒนากองทัพซึ่งไม่รู้ว่าในช่วงนี้จะไปรบกับใคร ในขณะที่ประชาชนจะอดตายทั้งบ้านทั้งเมือง
ช่วงของการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ไม่ลงมติมาตรา 152 ตนขอคัดค้านอย่างเต็มที่และจะเจอกับตนอย่างแน่นอนในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ จะไม่ยอมให้ 3ป. มาทำร้ายประชาชนและประเทศชาติอย่างเด็ดขาด
