กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้" เผยแพร่ข้อมูล ระบุว่า "นายพีรพล นายรีบมาแสดงตัวก่อนที่หมายจะไปถึงบ้าน ใครรู้จักสะกิดบอกเลย เนื่องจากผู้ก่อเหตุ หนุ่มซิ่งเก๋งไปรับแฟนก่อนชนจักรยานยนต์ดับ 1 บาดเจ็บ 1 ตรวจวัดแอลกอฮอล์นายพีรพล คนขับพบมีปริมาณแอลกอฮอล์ 155 มิลลิกรัม ต่อมาเจ้าตัวอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ โดยมีเพื่อนขับรถเก๋งมารับฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ บริเวณสะพานคลองเปรมประชากร ถนนรังสิต-ปทุมธานี ทิ้งโทรศัพท์ไว้ให้ดูต่างหน้า"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทราบเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุชื่อ นายพีรพล หรือ อ้วน อายุ 37 ปี หลบหนีแต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ในวันที่เกิดเหตุ ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นางภวันตรี ยะคำป้อ อายุ 53 ปี โดยอาการปอดฉีกขาด ส่วนผู้บาดเจ็บอีกคน นายอินเนตร ยะคำป้อ อายุ 50 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน
นอกจากนี้ ภาพจากกล้องหน้ารถจับวินาทีเจ้าของกล้องขับมาตามถนนปกติ และต่อมาจะมีรถเก๋งคันสีขาว ซิ่งแซงจากฝั่งซ้ายก่อนจะเสียหลักล้อเกยกับฟุตพาทคอสะพาน จากนั้นลอยเหินไปกระแทกกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต รถลอยไถลไปไกลรวมเป็นระยะทางประมาณ 50 เมตร
ล่าสุดวันที่ 13 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ น.ส.จันทรจิรา เพ็งจรูญ อายุ 31 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 9 ม.ค.65 เวลาประมาณ 20.00 น. หลังจากทานข้าวเสร็จสามีกำลังขับรถไปเติมน้ำมันเป็นทางขับรถกลับบ้าน และเจออุบัติเหตุเกิดขึ้น โดยสามีบอกว่า ในระหว่างขับรถอยู่นั้น สามีได้มองเห็นรถคันหนึ่งพยายามขับซิ่งด้วยความเร็ว ตรงมาจากฝั่งซ้าย เมื่อมองดูกระจกมองข้าง ก็เห็นว่าคนขับพยายามซิ่งผ่านรถตนไป เมื่อรถผ่านไปทำให้เห็นว่ารถซิ่งความเร็วเกินกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก่อนจะเสียหลักชนเข้ากันฟุตพาทคอสะพาน และไปกระแทกกับรถจักรยานยนต์ที่จอดกะพริบไฟซ้ายสุดอยู่ริมถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย
"หลังจากชนรถลอยเหินพลิกคว่ำระยะไกลเกินกว่า 50 เมตร และคนขับมีทีท่าเหมือนพยายามหนี จึงมีชาวบ้านไล่ต้อนมาที่เกิดเหตุ และเห็นสภาพมึนเมา พอตรวจแอลกอฮอล์วัดได้ 155 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ผู้ก่อเหตุก็บอกว่าไม่ได้ขับเร็ว ขับมาปกติ ซึ่งคนเห็นเหตุการณ์หลาย ๆ คนก็มาช่วยพูดว่า เขาขับรถซิ่งปาดหน้ารถหลายคัน และเฉี่ยวชนกับคนอื่น" น.ส.จันทรจิรา กล่าว
ทั้งนี้ ตนได้คุยกับลูกชายของผู้เสียชีวิต จึงทราบว่าในวันที่ 12 ม.ค.65 ที่ผ่านมา เขาได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว แต่ในใบบันทึกประจำวันไม่มีการระบุชื่อผู้ก่อเหตุ ตนจึงสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการตรวจแล้ว จับเป่าแล้ว ทำไมไม่จดชื่อนำลงข้อมูล และจับกุม อีกทั้งตนขอยืนยันว่ารถจักรยานยนต์จอดกะพริบไฟริมฟุตพาท แล้วนายพีรพ ก็ขับซิ่งมาทำให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนตัวมองว่าพฤติกรรมเช่นนี้ดื่มสุราและขับขี่ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ทีมข่าวเดินทางมายังวัดนาบุญ ถนนรังสิต - นครนายก ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยภายในวัดถูกจัดเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของนางภวันตรี ยะคำป้อ อายุ 53 ปี ภายในงานเต็มไปด้วยความโศรกเศร้า ซึ่งในวันนี้เป็นวันเผาศพของผู้เสียชีวิต มีเพียงนายวรเนตร ยะคำป้อ อายุ 27 ปี ลูกชาย บวชสามเณรหน้าไฟให้กับแม่ที่เสียชีวิต ส่วนผู้เป็นพ่อยังคงอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะนี้จึงไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้
ทีมข่าวได้เข้าพูดคุยกับสามเณรวรเนตร ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนทราบเรื่องเพราะพ่อโทรศัพท์เข้ามาบอกว่า "พ่อและแม่ถูกรถชน ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที" เพียงไม่นานพ่อก็ได้โทรศัพท์เข้ามาอีกครั้งว่า "ลูกแม่เสียแล้วนะ" ตนตกใจและช็อกมาก ๆ จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ให้ถึงโรงพยาบาลเร็วที่สุด แต่ก็ไม่พบเจอใคร แต่เห็นจากไลฟ์สดที่เขาแชร์ ๆ กันว่า แม่ของตนนอนเสียชีวิตอยู่ที่เกิดเหตุ
"ตอนนั้นผมคุยกับพ่อ พ่อได้พูดเพียงว่า ลูก ๆ พ่อขอโทษ พ่อไม่ตั้งใจ ตอนนี้พ่อจึงยังเสียใจมาก ๆ เนื่องจากพ่อคิดมาตลอดว่าเป็นคนพาแม่ออกมาข้างนอก และเป็นเหตุให้แม่ถูกรถชน ส่วนอาการ พ่อในตอนนี้ แขนหักกระดูทะลุออกจากผิวหนัง เส้นเอ็นนิ้วโป้งฉีกขาด สะบักหลังแตกหัก ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ กำลังรอแพทย์ประเมินเพิ่มเติมอีกครั้งครับ ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์" สามเณรวรเนตร กล่าว
ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งให้ตนทราบว่าแฟนของผู้ก่อเหตุเข้ามาให้ปากคำแล้ว อ้างว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวที่ประสบอุบัติเหตุ ในวันนั้นได้จอดรถเอาไว้ที่บ้าน แต่นายพีรพลได้นำรถไปใช้ ส่วนพ.ร.บ.รถขาด ประกันขาด ขณะนี้ตนก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากฝั่งของนายพีรพล อย่างไรก็ตาม แฟนสาวของนายพีรพล ได้เดินทางมาที่งานศพ และได้เข้ามาไหว้ขอขมาศพ ก่อนจะมอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเยียวยาครอบครัวหลังจากนี้
นอกจากนี้ ตนมองว่านายพีรพล ควรเข้ามามอบตัว แต่ในวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ตนจัดงานศพให้แม่ เพราะวันนี้เป็นวันเผาแล้ว ครอบครัวของตนมีเพียงกันแค่ 3 คน ขณะนี้ขาดแม่ไปแล้ว พ่อยังคงต้องรักษาตัว และค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างสูงอีกด้วย
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ระบุว่า นายพีรพล มีค่าแอลกอฮอล์ 155 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สูงเกินมาตรฐาน เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ชนแล้วหนี เมาแล้วขับ และหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ