แม่โวยหมาข้างบ้านกัดลูกหวิดตาบอด อึ้งเหยื่อถูกฟัด 6 รายรวด - เจ้าของยันไม่ดุ คาดหวงของ (คลิป)

กรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนว่า ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี มีเด็กถูกสุนัขกัด ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีเด็กบางคนถูกหมากัดจนตาเกือบบอด ผู้ปกครองของเด็กจึงเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

วันที่ 20 ธ.ค.61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี บ้านของนายถวิล ศักดิ์พวงมี ตาของน้องกำปั้น และน้องปัด ผู้ได้รับบาดเจ็บ

โดยพบว่า บริเวณแขนด้านขวาของน้องกำปั้น มีผ้าพันแผลไว้ เนื่องจากถูกสุนัขกัด และมีร่องรอยคล้ายถูกกัดอยู่ด้านหลังซ้าย ส่วนน้องปัดจะมีรอยอยู่ตรงต้นขาหลังซ้าย 2 จุด เป็นรอยคล้ายเขี้ยวสุนัข

นายถวิล ศักดิ์พวงมี ตาของด.ช.กำปั้น และด.ญ.ปัด ผู้ได้รับบาดเจ็บ เผยว่า แต่ละครั้งที่สุนัขกัดหลาน ตนจะไม่อยู่บ้าน แต่ก็พอทราบว่าหลานถูกกัดในช่วงเวลาใดบ้าง โดยหลานถูกกัดครั้งแรก ประมาณเดือน พ.ค. ขณะที่น้องกำปั้นนั่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้าน สุนัขของข้างบ้านก็วิ่งมากัดตามลำตัว แต่ครั้งนั้นบาดเจ็บไม่มาก จึงไม่ได้คิดเอาความผิดอีกฝ่าย ทั้งยังเคยพูดคุยกับภรรยาเจ้าของสุนัขว่าให้ย้ายสุนัขไปไว้ที่อื่น พบว่า ครอบครัวดังกล่าวย้ายสุนัขออกไปเพียงวันเดียว และนำสุนัขกลับเข้ามาเลี้ยงในวันถัดไป

จากนั้นไม่กี่เดือน น้องกำปั้นก็ถูกสุนัขตัวเดิมกัดตรงบริเวณหลังด้านซ้าย ตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.หนองแค พร้อมอธิบายกับเจ้าของบ้านว่า การแจ้งความครั้งนี้ตนไม่ได้หวังจะเอาเงิน แต่ต้องการแค่ให้นำสุนัขไปไว้ที่อื่น ต่อมาวันที่ 11 ต.ค. น้องปัด หลานสาว ก็ถูกสุนัขตัวเดิมกัดที่ต้นขาหลังซ้าย จึงได้ไปคุยกับภรรยาเจ้าของสุนัขอีกครั้ง ซึ่งได้รับคำสัญญาแบบเดิมอีก คือจะนำสุนัขไปปล่อย ซึ่งครั้งนี้ตนก็หลงเชื่อและไม่ไปแจ้งความ เพียงแค่พาหลานไปฉีดยาป้องกันเท่านั้น ล่าสุด วันที่ 10 ธ.ค. น้องกำปั้นถูกสุนัขตัวเดิมกัดที่แขนขวา ซึ่งในวันเกิดเหตุ เจ้าของสุนัขขังสุนัขไว้ในบ้าน แต่ลูกของเจ้าของสุนัขกลับมาบ้าน จังหวะที่เปิดประตูบ้าน ทำให้สุนัขวิ่งสวนออกมากัดน้องกำปั้น ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า เด็กที่ถูกกัดแต่ละคนก็ไม่เคยแหย่สุนัข และทราบมาว่า กระทั่งหลานของผู้เลี้ยงสุนัขเองก็เคยถูกกัด

นอกจากนี้ ยังมีเด็กในละแวกบ้านใกล้เคียงอีกหลายคน ที่ตกเป็นเหยื่อ ถูกสุนัขกัดจนได้รับบาดเจ็บมาแล้วหลายครั้ง

ด้าน น.ส.สุภาพร ทะลีศรี แม่ของน้องอุ้มวัย 4 ขวบ ให้ทีมข่าวดูบาดแผลบริเวณเปลือกตาด้านซ้ายของลูกสาว พบว่ามีรอยแผลเป็น ส่วนที่ศีรษะเป็นรอยแผลเป็นจากการโดนสุนัขกัด ซึ่งเหตุการณ์ของน้องอุ้มเกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ย. 60

น.ส.สุภาพร เล่าว่า วันเกิดเหตุ พ่อโทรศัพท์มาบอกว่าลูกถูกสุนัขกัด ขณะที่ไปเรียกพ่อหน้าบ้านเจ้าของสุนัข ตนจึงรีบพาลูกไปส่งโรงพยาบาล โดยลูกมีบาดแผลบริเวณเปลือกตาด้านซ้าย และที่ศีรษะ ขณะนั้นต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล เพราะต้องให้หมอศัลยกรรมดูบาดแผลอีกครั้ง ขณะนั้นเมื่อทราบข่าว ก็กลัวว่าลูกจะตาบอดอยู่เหมือนกัน  

หลังเกิดเหตุ ตนสอบถามเจ้าของสุนัขว่าจะรับผิดชอบอย่างไร และหากไม่รับผิดชอบค่ารักษาก็ขอให้นำสุนัขไปปล่อยที่อื่น ซึ่งก็เห็นเจ้าของนำสุนัขไปปล่อย แต่ไม่นานก็นำกลับมาเลี้ยงอีกครั้ง และบอกเหตุผลที่ปล่อยออกมาว่า หากขังไว้สุนัขจะเครียด

ต่อมา นายสมคิด เจ้าของสุนัข พาทีมข่าวไปดูที่เลี้ยงสุนัขตัวดังกล่าว พบว่าสุนัขตัวที่กัดเด็กอยู่หลังบ้าน บริเวณที่เลี้ยงมีไม้ปิดไว้ จากการสังเกตเมื่อนายสมคิดอยู่ด้วย สุนัขจะไม่เห่า เพราะนายสมคิดจะพยายามปรามไว้ แต่หากเจ้าของไม่อยู่ ก็จะขู่ด้วยเสียงเบา และเห่าบ้างเล็กน้อย

นายสมคิดว่า เผยว่า ตนจะปล่อยสุนัขแค่ช่วงเวลากลางคืนเพื่อให้ไปขับถ่าย หรือบางครั้งหากตนอยู่ก็จะปล่อยสุนัขออกมา เนื่องจากสุนัขของตนไม่ได้ดุร้าย แต่หากมีคนไปกระทำกับสุนัข เช่น เหยียบ หรือตี สุนัขก็จะไล่กวด หรือบางครั้งถ้าสุนัขเกลียดเด็กคนไหนก็จะกัด

ส่วนกรณีที่ลูกตนโดนสุนัขกัด เป็นเพราะว่าลูกนอนตกเตียงไปทับสุนัข จึงถูกกัด ซึ่งหากสุนัขของตนเจอคน หรือเด็กทั่วไปก็จะไม่กัด เพราะสุนัขเชื่องและไม่ดุ เพียงแค่หวงของเท่านั้น เรื่องที่สุนัขตนไปกัดเด็กคนอื่นนั้น ตนพร้อมจะเยียวยาดูแลให้ ซึ่งตนแก้ไขปัญหาเบื้องต้นไปแล้วคือ นำสุนัขไปขังไว้ด้านหลังบ้าน ทั้งนี้ ตนมีความคิดจะนำสุนัขไปปล่อยที่วัด แต่เมื่อนำสุนัขไปปล่อยทางวัดก็ขอให้ตนนำกลับเพราะมีสุนัขในวัดเยอะแล้ว