พี่คลั่งไล่ฟันพ่อ น้องกลั้นใจแทงดับ ช็อกสั่งแม่กินขี้ 2 เฒ่าอภัยลูกทำเพื่อปกป้อง (คลิป)

กรณีศูนย์วิทยุสภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกันเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่งในเขตพื้นที่ ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าประตูห้องครัวพบศพนายสิงห์ทอง ศรีสุข อายุ 55 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ในสภาพสวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขายาวสีดำ ตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบถูกของมีคมแทงจากด้านหลังทะลุราวนมซ้าย ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นางสาวศิญาณี ศรีสุข อายุ 46 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต

ล่าสุดวันที่ 30 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้ปล่อยตัวนางสาวศิญาณี ชั่วคราว เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ลักษณะบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณประตูทางเข้าห้องครัวหลังบ้าน

นางสาวศิญาณี ศรีสุข ผู้ก่อเหตุ และเป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. นายทองมา และนางมาลา ศรีสุข พ่อและแม่ของตนได้นั่งทานข้าวที่โต๊ะหินอ่อน ภายในห้องครัวด้านหลังบ้าน ตนก็กำลังทำกับข้าวอยู่ในห้องครัว จากนั้นนายสิงห์ทอง ซึ่งไม่รู้ว่าไปดื่มเหล้าเมามาจากไหน ถือมีดพร้าแล้วง้างมีดจะฟันพ่อและแม่ ซึ่งพ่อแม่ก็ลุกเดินหนีไม่ได้ เนื่องจากทั้ง 2 คนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ตนจึงวิ่งเข้ามาผลักนายสิงห์ทอง ทำให้ตถูกตบเข้าที่ใบหน้าและเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ไม่รู้ตัวว่ามีดที่ตนถือมาด้วยขณะทำกับข้าวจะไปถูกพี่ชาย กระทั่งพี่ชายได้ล้มลงไปนอนที่พื้นเสียชีวิต

"พ่อแม่ทนถูกพี่ชายทำร้ายร่างกายและจิตใจมากว่า 20 ปีแล้ว เขาเสพยาเสพติดตั้งแต่เด็ก ซ้ำยังชอบดื่มเหล้าทุก ๆ วัน เวลาที่เขาเมาเหล้ามา เขาก็จะด่าพ่อแม่ ขู่ฆ่าพ่อแม่ ทำลายข้าวของในบ้าน รวมถึงทำร้ายร่างกายพ่อแม่ ถึงขั้นอุจจาระใส่ถ้วย แล้วเอามาวางไว้ให้แม่บังคับให้แม่กินขี้ของเขา รวมถึงเอาเก้าอี้เขวี้ยงใส่แม่" ผู้ก่อเหตุ กล่าวอ้าง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน ตนเคยพูดกับพ่อและแม่ว่า จะขายบ้านแล้วพาทั้ง 2 คนหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะทนอยู่บ้านหลังเดียวกับพี่ชายไม่ได้ บางวันพ่อนอนป่วยติดเตียง นายสิงห์ทอง ก็จับกระติกน้ำไปเขวี้ยงใส่พ่อ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายสิงห์ทองทำร้ายร่างกายพ่อแม่ เพราะพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง มรดกที่ไร่ที่นาพ่อแม่ก็ยังไม่ได้แบ่งให้ลูก ๆ ตนคิดว่าที่พี่ชายมีอาการแบบนี้เพราะเขาหลอนยาและฤทธิ์เหล้ามากกว่า

ทีมข่าวไดด้ตรวจสอบเฟชบุ๊กของนางสาวศิญาณี ผู้ก่อเหตุ พบว่าเมื่อวันที่ 3 กันยายน 64 ได้โพสต์คลิปนางสิงห์ทอง ผู้เสียชีวิต ที่มีอาการคลั่ง ถือท่อนไม้จะมาทำร้ายคนในครอบครัว พร้อมเขียนข้อความว่า "แจ้งตำรวจกะบ่ออกมาเบิ่งประชาชนเด้อพี่น้อง ตำรวจประโคนชัย รอให้มีคนตายก่อนละมั้ง เลวสุด ๆ ลูกเนรคุณ"

ในวันที่ 14 ธันวาคม 64 โพสต์ข้อความว่า "ประกาศขายบ้าน มีใครสนใจบ้างไหมน้อ" กระทั่งหลังเกิดเหตุ ได้แชร์โพสต์ที่มีข้อความว่า "เรื่องแย่ ๆ ที่เข้ามา ขอให้จบแค่ปีนี้พอนะ ปีหน้าฟ้าใหม่ขอให้พบสิ่งดี ๆ โชคดีจงมาหา"

นายทองมา ศรีสุข อายุ 75 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายจะเข้ามาทำร้ายตนและภรรยา ทำให้ลูกสาวที่ทำกับข้าวเข้ามาช่วยจึงเกิดการชุลมุนกัน กระทั่งพบว่าลูกชายเสียชีวิต ตนป่วยเป็นโรคเบาหวาน และโรคเกาต์ ทำให้ป่วยติดเตียงมากว่า 10 ถ้าจะเดินจะต้องใช้ที่พยุงเดิน 4 ขา

ที่ผ่านมานายสิงห์ทอง เขาจะเสพยาเสพติดและขู่ฆ่าตนและภรรยาเป็นประจำ อีกทั้งยังขี้ใส่ถ้วยบังคับให้แม่กินขี้ของเขา และขู่จะเผาบ้านทิ้งอีกด้วย เหตุที่เกิดขึ้น ตนก็ให้อภัยสูกสาว เพราะเขาทำไปเพื่อป้องกันพ่อแม่ ถ้าไม่ได้ลูกสาวเข้ามาช่วยตนและภรรยาอาจถูกลูกชายฆ่าตายแล้วก็ได้

นางมาลา ศรีสุข อายุ 73 ปี แม่ผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ (29 ธ.ค. 64) ตนกำลังนั่งทานข้าวกับสามี จู่ ๆ นายสิงห์ทอง ลูกชายคนโตก็ถือมีดพร้าเข้ามาจะทำร้ายตนกับสามี จังหวะนั้นลูกสาวจึงเข้ามาช่วยเหลือ กระทั่งเกิดเหตุชุลมุนกันดังกล่าว ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นตนก็ให้ลูกสาว เพราะเขาต้องการป้องกันตัวเอง ส่วนลูกชายคนนี้เขาโหดร้าย เคยทำร้ายตนเป็นประจำ ทั้งตบทั้งลากไปมาในบ้าน

"2 วันก่อนเกิดเหตุ ลูกชายก็เพิ่งก่อเหตุจับโต๊ะโยนใส่ฉันมาแล้ว แล้วเวลาเขาคลั่งเขาก็ขู่จะฆ่าฉันและสามี โดนเขาบอกว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน เขาจะฆ่าทิ้ง ส่วนลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัวหาเลี้ยงพ่อและแม่ เมื่อคืนนี้ถ้าลูกสาวไม่เข้ามาช่วยไว้ก่อน ฉันและสามีอาจถูกลูกชายใช้มีดฟันเสียชีวิตแล้ว" แม่ผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ กล่าว