จากกรณีนักธุรกิจค้าเพชรจิวเวลรี่ ย่าน ถ.สุรวงศ์ ชาวปากีสถาน ชื่อ Mr.Ali Saiyed Ashik (อาลี ไซยาด อาชีก) อายุ 34 ปี หนุ่มสัญชาติอินเดีย พร้อมเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์คือ นายแซนดีฟ ซิงท์ (Mr.Sandeep sing) และนายอาคีย์ (Mr.Akee) เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือร้องกับสื่อมวลชน หลังถูกกลุ่มพนักงานร้านอาหารประมาณ 4-5 คนรุมกระทืบ ทำร้ายร่างกายขณะเดินผ่านหน้าร้าน ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายและดวงตาเขียว คิ้วขวาแตกเลือดอาบ เย็บถึง 13 เข็ม เมื่อช่วงเวลา 21.00 น. ของวันที่ 20 ธ.ค. 64
ล่าสุด วันที่ 23 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ร้านอาหารดูไบ ภายในซอยสุขุมวิทซอย 5 เขตลุมพินี กรุงเทพฯ
นายริชาร์ด (นามสมมติ) คู่กรณี บอกว่า ที่จริงแล้วคนเสียหายคือฝั่งของตน โดยนายอาลี ผู้บาดเจ็บ เป็นคนเข้ามาหาเรื่องและพาพวกมาจะรุมทำร้ายก่อน โดยวันเกิดเหตุ 20 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 21.10 น. นายอาลีเดินทางมากับนายแซนดีบ หมวกสีแดงในคลิปวงจรปิด โดยนายอาลีมีอาการมึนเมา และโวยวายเสียงดัง ตะโกนด่าคำหยาบคายเป็นภาษาปากีสถาน
ตนจึงออกจากร้านเพื่อไปสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นเหตุใด จึงมาเสียงดังบริเวณหน้าร้าน แต่ทางด้านของนายอาลีด่าคำหยาบคาย ตนจึงรู้สึกไม่พอใจ เพราะบอกว่าถ้ามีปัญหาอะไรก็ควรที่จะพูดคุยกันดี ๆ ได้ ซึ่งขณะนั้น นายอาลีได้มีการโทรศัพท์ตามเพื่อนมาอีก 2 คน ซึ่งก็จะพยายามทำร้ายร่างกายตน มีการต่อยที่บริเวณใบหน้าตนข้างขวา ตนจึงสวนกลับ จากนั้นก็เกิดเหตุชุลมุนกัน จึงช่วยกันแยกตัวออกมา ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้มีใครบาดเจ็บจนเลือดตกยางออก แล้วนายอาลีก็พยายามมากอดขอโทษตน และลูกน้องในร้าน แล้วกลับไป ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่านายอาลีไปให้ข่าวว่าตัวเองมากินข้าวเฉย ๆ แล้วโดนทำร้าย ทั้งที่ภาพวงจรปิดชัดว่ามาหาเรื่องก่อน
ส่วนตัวไม่ได้มีการรู้จักกับนายอาลีเป็นการส่วนตัว ทราบแค่ว่าเป็นคนที่มาเที่ยวภายในซอยสุขุมวิทเป็นประจำ และค่อนข้างมีพฤติกรรมเมาแล้วโวยวายเสียงดัง เหตุการณ์ในครั้งนั้นตนได้มีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วเช่นกัน อีกใจหนึ่งก็รู้สึกกลัว เพราะนายอาลีมีเงิน เขาอาจจะทำอะไรได้มากว่านี้ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาคุ้มครองและให้ความเป็นธรรม เนื่องจากหลังเกิดเหตุมีชายไทยแปลกหน้าเดินมาถ่ายรูปหน้าร้านอาหาร กลัวว่าจะทำให้ธุรกิจร้านอาหารเสียชื่อ
นางสาวนุช (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ พนักงานร้านค้าใกล้เคียง บอกว่า ปกติตนจะพบเห็นนายอาลีเดินทางมาทานอาหารเป็นประจำ ซึ่งมีบุคลิกและพฤติกรรมที่ชอบพูดจาเสียงดัง เวลาเมาจะพยายามทำให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองมีเงิน และจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งพูดภาษาไทยบ้าง ภาษาปากีสถานบ้าง วันเกิดเหตุตนได้ยินเสียงนายอาลีมาแต่ไกล โดยมีท่าทีมึนเมาสุราและเข้ามาด่าโวยวาย อยู่หน้าร้านอาหารที่เกิดเหตุ ซึ่งตนได้ยินเสียงทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากัน แต่ตนฟังไม่รู้เรื่อง หลังจากนั้นมีการชุลมุนกัน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เพราะคุ้นหน้าแค่นายอาลีคนเดียว หลังจากนั้นก็แยกย้ายกัน ตนก็ไม่ได้เห็นว่ามีใครเลือดตกยางออก แต่ก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มองดูแล้วนายอาลีต่างหากที่มีพฤติการเมาแล้วกร่างเหมือนมาเฟียเอง