หลวงพี่น็อต 4G ทำแสบ จัดฉลองกระดูกพ่อสุดอลังการในวัด แต่เบี้ยวจ่ายค่าจ้างนับแสน (คลิป)

จากกรณี ผู้ร้องเรียนผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี ว่ามีพระสงฆ์ที่วัดคู่สร้าง ต.ในคลองปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หลอกลวงให้ นำภาพยนต์ ปี่พาทย์ โขนสด โต๊ะจีน ในงานทำบุญกระดูกโยมพ่อของพระรูปดังกล่าว โดยไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างกว่าแสนบาท

วันที่ 6 ธ.ค. 61 ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดคู่สร้าง จ.สมุทรปราการ พระปลัดประพันธ์ กิตติปาโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดคู่สร้าง เปิดเผยว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พระรูปดังกล่าวคือ พระสมชาติ สันติชาโต หรือหลวงพี่น็อต ซึ่งหายออกจากวัดตั้งแต่ช่วงเช้า โดยกุฏิของหลวงพี่น็อต เป็นกุฏิที่มีสติกเกอร์ติดหน้าประตูไว้ว่า "พระสมชาติสันติชาโต (หลวงพี่น็อต 4G) อยู่...ไม่อยู่...อยากรู้เคาะสิ" ก็ปิดและล็อกไว้ โดยที่พระน็อตไม่ได้บอกพระรูปไหนไว้ด้วย

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พระน็อตแจ้งกับตนว่า จะขอใช้สถานที่เพื่อการจัดงานทำบุญกระดูกโยมพ่อ ตั้งแต่วันที่ 2-4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวัดก็ไม่ได้ขัดข้อง โดยงานดังกล่าวงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีการนิมนต์พระไปสวดบังสุกุล มีการเล่นปี่พาทย์ เลี้ยงโต๊ะจีน ฉายภาพยนตร์ และคืนสุดท้ายมีการแสดงโขนสด ซึ่งเมื่อจบงาน ผู้จัดงานมาเรียกเก็บเงินกับพระน็อต แต่พระน็อตไม่มีให้ ทั้งนี้ อยากบอกกับสังคมว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับทางวัด แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของพระน็อต โดยวัดเป็นเพียงผู้ให้ใช้สถานที่เท่านั้น

ด้าน นายธรรมการ คำสอน อายุ 24 ปี เจ้าของโต๊ะจีน ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนพยายามโทรศัพท์ติดต่อหานายสมชาติ หรือพระน็อต แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงเดินทางไปที่วัดคู่สร้างและพบกับหลวงพี่ที่รู้จัก จึงขอให้หลวงพี่ติดต่อไปหาพระน็อต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับสาย และบอกเพียงว่า เจ้าของโทรศัพท์เดินทางมามอบตัวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตำรวจบอกอีกว่าพระน็อตเดินทางมามอบตัว โดยมีเงินติดตัวเพียง 200 บาท ซึ่งไม่เพียงพอกับค่ารถแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องจ่ายให้

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิมพ์ตรวจสอบ พบว่า พระน็อต ชื่อจริงคือ นายสมชาติ ภู่เผือก นอกจากนี้ พบว่ามีประวัติอาชญากรรม คือ หมายจับที่ สภ.แม่ฟ้าหลวง โดยรูปของผู้ต้องหาตรงกับบุคคลตรงหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ทันที นายธรรมการ กล่าวต่อว่า ตนขอเป็นตัวแทนผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ไปแจ้งตำรวจ โดยตำรวจบอกว่า กรณีดังกล่าว เป็นคดีแพ่ง ไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่ก่อเหตุได้ ตนจึงอยากขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการจัดการเรื่องดังกล่าว เพราะคดีแพ่งเหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่กระทำผิดมากกว่าผู้ที่ทำมาหากิน หรือหากกลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันไปว่าจ้างทนายให้มาต่อสู้คดี แล้วเกิดชนะคดีขึ้นมา ก็ไม่คุ้ม เพราะค่าเสียหาย กับค่าจ้างทนายก็ราคาเท่ากัน

ด้าน นายโสรส พันทวี อายุ 39 ปี หัวหน้าคณะโขนสด ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับพระน็อตประมาณ 2 เดือน ก่อนหน้านี้ มีการติดต่อประสานงานกัน และมีการชำระเงินตามปกติไม่มีปัญหาใด ๆ กระทั่งล่าสุด พระน็อตติดต่อมา ให้ไปเปิดการแสดงโขนสดในงานโยมพ่อ ทำบุญอัฐิ ที่วัดคู่สร้าง พระสมุทรเจดีย์ ในวันที่ 3 ธ.ค. 61 ตนจึงบอกราคาการแสดงจำนวน 80,000 บาท ต่อมาพระน็อตจึงขอลดราคาเหลือประมาณ 50,000 บาท หลังจากนั้น ประมาณ 1 ชั่วโมง พระน็อตส่งข้อความเฟซบุ๊กมายืมเงินตน 5,000 บาท เนื่องจากบัญชีถูกล็อกโอนเงินไม่ได้ แต่ตนไม่ได้ให้ โดนตนขอเรียกเก็บค่ามัดจำ 5,000 บาทก่อน พระน็อตก็บอกว่ายังไม่มี และขอให้ตนไปรับเงินมัดจำที่วัด ตนก็ตอบตกลง กระทั่งวันจัดการแสดง ตนทวงถามเงินค่าจ้าง แต่พระน็อตตอบตนเพียงว่า ให้มารับเงินในช่วงเย็น และขอให้ตนแสดงโขนสดต่ออีก 2 คืน ซึ่งระหว่างนั้น คนรู้จักจากวงดนตรีปี่พาทย์เดินมาสอบถามตนว่า ได้เงินค่ามัดจำหรือไม่ ตนก็บอกว่ายังไม่ได้ จากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกันถึงการว่าจ้างให้มาจะแสดง กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. ตนพร้อมด้วยตัวแทนวงปี่พาทย์ และเจ้าของโต๊ะจีน รวมตัวกันไปพบพระน็อตเพื่อทวงถามเงินมัดจำ แต่ถูกพระน็อตปฏิเสธ และบอกว่าไม่มีเงิน พวกตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่อง และลงบันทึกประจำวันไว้ นอกจากนี้ อยากจะขอฝากว่า ตนก็เป็นประชาชนคนธรรมดาที่หาเช้ากินค่ำ ไม่เคยคดโกง หรือทุจริต แต่กลับมาเจอกับตัวเอง

ต่อมา ที่ชุดชนข้างวัดคู่สร้าง ญาติของพระน็อต ให้ข้อมูลว่า ตนไม่ทราบข่าวว่าพระน็อตโกงเงิน เพราะว่าตนไม่ได้ไปร่วมงาน และไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพระน็อต และเรื่องในลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ตอนที่พระน็อตอยากที่จะบวช ก็จัดงานใหญ่โต จ้างทั้ง แตรวง ปี่พาทย์ โต๊ะจีน สิงโต เชิดมังกร แต่พระน็อตก็ไม่มีเงินจ่าย จนต้องทำให้แม่ของพระน็อตต้องไปกู้หนี้ยืมเงินมาจ่ายให้ลูก ทั้งนี้ ตนไม่ค่อยรู้จักนิสัยของพระน็อตดีนัก เนื่องจากพ่อกับแม่ของพระน็อตเลิกกันตั้งแต่พระน็อตยังเด็ก พ่อพระน็อตตายไป ทำให้พระน็อตออกจากบ้านไปนานกว่า 5-6 ปี ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน แต่พระน็อตกลับมาเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา บอกว่าจะบวช อย่างไรก็ตาม พระน็อตบอกกับที่บ้านว่า จะขอคัดรายชื่ออกจากทะเบียนบ้าน เนื่องจากจะไปประเทศญี่ปุ่น ญาติจึงบอกไปว่า คัดชื่อออกไปแล้วก็ไม่ต้องกลับเข้ามาอีกนะ และก่อนหน้านี้ เคยมีหมายศาลมาที่บ้าน 1 ฉบับ โดยตอนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าพระน็อตไปอยู่ที่ไหน เนื่องจากไม่ได้ติดต่อกัน