สยองสาววางยาพ่อแม่แฟนหวังฮุบมรดก อึ้งเจอขบวนการแม่ทิพย์เปลี่ยนหลายชื่อ (คลิป)

1 ธ.ค. 64

จากกรณี นายพงษ์ศา เทพพิชัย อายุ 40 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ร้องกับสื่อมวลชน หลังเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ควนขนุน เอาผิดกับบุคคลที่ชื่อ น.ส.เปมิกา หรือ แป้ง อายุ 34 ปี, นางน้อย อายุ 61 ปี หลังแอบเอายาเสพติดผสมในอาหารให้ ร.ต.อ.สุชีพ เทพพิชัย อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.ควนขนุน ผู้เป็นพ่อ และนางวรรณี เทพพิชัย อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแหลมโตนด ผู้เป็นแม่ กินจนเกิดอาการหลอน เหมือนผู้ป่วยจิตเวชนั้น

917755

วันที่ 1 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังของผู้เสียหาย ตำบลปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง นายพงษ์ศา เทพพิชัย อายุ 40 ปี ลูกชายผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายอริยะ หรือ เบส อายุ 30 ปี น้องชายของตน รู้จักกับนางสาวเปมิกา หรือ แป้ง ผ่านทางเฟซบุ๊ก เมื่อช่วงมกราคม 2563 ก่อนทั้ง 2 คนมีการพูดคุยสร้างความสนิทสนมจนถึงขั้นคบหากันเป็นแฟน

344533

ต่อมานางสาวแป้ง อ้างว่าครอบครัวเดือดร้อน จึงขอมาอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านที่ตำบลปันแต อ.ควนขนุน จากนั้นนางสาวแป้งพร้อมด้วยนางน้อย อ้างว่าเป็นแม่ของแป้ง ขนย้ายข้าวของมาอยู่ที่บ้านในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา หลังจากที่นางสาวแป้งและนางน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน ร.ต.อ.สุชีพ ผู้เป็นพ่อ และนางวรรณี ผู้เป็นแม่ของตนก็มีอาการผิดปกติ หวาดระแวง เซื่องซึม ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูด นอนไม่หลับ โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวเอง ญาติต้องมารับตัวไปดูแลอย่างใกล้ชิดที่ จ.กระบี่ ในระหว่างรอตนเดินทางลงมาจากกรุงเทพฯ

cg

หลังจากนั้นช่วงเดือนกันยายน พาพ่อและแม่ไปหาหมอที่ รพ.พัทลุง แพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากความเครียดจากสภาพแวดล้อม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ หมอได้รักษาตามอาหารและให้ยามากิน แต่อาการทั้งคู่ก็ไม่ดีขึ้น
มีความหวาดระแวง หวาดกลัวเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ

624908

รวมทั้งเมื่อดูพฤติกรรมของนางสาวแป้ง และนางน้อย ที่เข้ามาอยู่ในบ้านผิดปกติ เนื่องจากเจ้าตัวพยายามหลอกล่อให้ทั้งพ่อและแม่ ทำธุรกรรมทางการเงิน ทำประกันชีวิต และร้องขอให้นายเบส น้องชายแต่งงานและจดทะเบียนด้วย ที่สำคัญพ่อเคยพบยาเสพติดในบ้าน เมื่อตนทราบจึงพาผู้เป็นพ่อและแม่เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ควนขนุน ให้ตรวจสอบเรื่องนี้

จากนั้นได้ส่งพ่อและแม่ไปตรวจร่างกายที่ รพ.สงขลานครินทร์ ผลตรวจของ รพ.สงขลานครินทร์ ระบุว่าพ่อแม่มีอาการซึมเศร้าขั้นรุนแรง และมีอาการทางจิต ในครอบครัวเครียดกันมาก เพราะไม่รู้สาเหตุการป่วยของพ่อและแม่ เพราะทั้งคู่เป็นคนแข็งแรง จึงเริ่มตรวจสอบประวัติของนางสาวแป้ง แฟนของน้องชาย และนางน้อย ผู้ที่อ้างว่าเป็นแม่ของนางสาวแป้ง พบประวัติไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะนางสาวแป้ง ได้เปลี่ยนชื่อมาหลายรอบ ทั้งยังมีการพบยาเสพติดจำนวนหนึ่งในรถเบนซ์ของทั้งคู่ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.434 พัทลุง เข้าตรวจสอบเรื่องยาเสพติดที่บ้าน แต่ทางตำรวจ ระบุนางสาวแป้งและนางน้อยเป็นผู้ป่วยจิตเวช ทำอะไรไม่ได้ ทั้งไม่เจอของกลางยาเสพติด และขณะที่ตนนำนางสาวแป้งส่ง รพ.พัทลุง เพื่อทำการตรวจรักษาว่าป่วยจิตเวชหรือไม่ ปรากฏว่านางน้อย ที่อ้างว่าเป็นแม่ของนางสาวแป้งได้หนีออกจากบ้านไปเมื่อ 3 ส.ค. 64 พร้อมเอกสารสำคัญของพ่อแม่ตน เช่น บัตรประชาขน บัตรข้าราชการ สำเนาทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา

746583

หลังจากนั้นตนได้ประสานตำรวจ สภ.ควนขนุน ขอให้ทำเรื่องถึง รพ.ศิริราช เพื่อส่งอาหารในบ้านไปตรวจ พร้อมร้องขอให้ทาง รพ.ศิริราช ตรวจเส้นผมของพ่อและแม่ ซึ่งผลการตรวจออกมาปรากฏ "พบสารเมตแอมเฟตามีน" ในเส้นผมของทั้ง 2 คน จึงพยายามพูดคุยกับพ่อแม่ ถึงความผิดปกติ และเชื่อว่ามีคนวางยา เอาสารเสพติดผสมให้อาหารให้พ่อแม่ของตนกิน

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าเป็นมิจฉาชีพที่ทำกันเป็นขบวนการ เพราะหลังจากตรวจสอบพบทั้งนางสาวแป้งและนางน้อยไม่ใช่แม่ลูกกันจริง ทั้งยังมีการปลอมเฟซบุ๊กมาคุกคามตนและคนในครอบครัวอย่างต่อเนื่อง และเรื่องนี้เชื่อว่ามีคนอยู่เบื้องหลังมากกว่าจะทำกันเอง อาจจะมีกลุ่มขบวนการคนต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง หวังยึดเอาทรัพย์สิน โดยใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายในการแฝงมาเป็นบุคคลในครอบครัว ล่าสุด ขณะนี้นางสาวแป้งและนางน้อย ก็ยังหลบหนีลอยนวล ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน

452378

ด้าน ร.ต.อ.สุชีพ และนางวรรณี สามีภรรยา ผู้ตกเป็นเหยื่อ เล่าว่า หลังนางสาวแป้ง และนางน้อย แม่ลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งคู่จะอาสาเป็นคนทำกับข้าวให้คนในครอบครัวกิน แต่ผิดปกติตรงที่ทั้งคู่ไม่ยอมกินอาหารจานเดียวกับที่พวกตนกิน โดยทั้งคู่จะทำกินแยกส่วน และกินก่อนที่พวกตนจะกินหรือบางครั้งก็กินเฉพาะมาม่า และอาหารที่ออกไปซื้อมาจากข้างนอก จนกระทั่งพวกตนเกิดอาการผิดปกติ เหมือนคนเป็นโรคประสาท ครอบครัวเริ่มมีปัญหา มีความระแวง ทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง

ในส่วนนี้ จึงเชื่อว่านางสาวแป้งและนางน้อยต้องทำอะไรกับพวกตนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้เข้ารับการรักษาอาการป่วย หมอให้ทานยาต่อเนื่อง และอาการโดยรวมดีขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายนี้หากผู้ก่อเหตุได้ติดตามข่าว ตนก็อยากให้รีบเดินทางกลับมาเพื่อชดใช้ความผิดที่ได้กระทำ พร้อมทั้งขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว จะได้ไม่เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นซ้ำอีก

563120

ด้านนายอริยะ หรือ เบส อายุ 30 ปี แฟนผู้ก่อเหตุ เผยว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นตนคบหากับ น.ส.แป้ง มานานหลายเดือน ก่อนจะคบเป็นแฟนและพากันมาอยู่ด้วยกันที่บ้านพ่อกับแม่ใน จ.พัทลุง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตนยอมรับว่าตัวของตนเองกับน.ส.แป้ง ก็เคยมีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจริง แต่ช่วงหลังตนเลิกยุ่งเกี่ยวแล้ว

โดยทีไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า น.ส.แป้ง และนางน้อย จะมาก่อเหตุดังกล่าวกับพ่อกับแม่ตน ถึงขั้นใส่ยาเสพติดในอาหารให้พ่อกับแม่กิน จนเกิดอาการหลอนทางประสาทถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม ตนก็รู้สึกตกใจและอยากวอนขอให้ผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาชดใช้รับผิดชอบการกระทำที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตน พร้อมทั้งอยากให้ตำรวจดำเนินการเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด จะได้ไม่ต้องไปก่อเหตุดังกล่าวซ้ำกับผู้อื่นอีก

สุดท้ายนี้ ต่อไปตนคงไม่กล้าที่จะคบหากับใครผ่านทางโซเชียลมีเดียอีก อีกทั้งอยากฝากเตือนให้ประชาชนที่ดูเคสนี้เป็นอุทาหรณ์ควรระวัง เนื่องจากหวั่นเกิดเหตุซ้ำ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส