เปิดห้องเชือดอุ้มฆ่าสาวนั่งยาง ฆาตกรรับผิดทำเสียชื่อประเทศ เมียท้องหวั่นหม่องแค้น (คลิป)

20 พ.ย. 64

กรณีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 16.18 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรีได้รับแจ้งว่า Ms.myint myint khaing สัญชาติ เมียนมา อายุ 20 ปี ได้หายตัวไปจากห้องพักป้าแจ๋ว ห้องหมายเลข 3 ม. 11 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน แล้วพบว่าบุคคลที่ต้องสงสัยคือนายบุญหลาย บัวพันธ์ จากนั้นได้สืบทราบว่านหลบหนีไปอยู่ที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กระทั่งได้ไปเชิญตัวสอบปากคำ จนผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ฆ่าข่มขืนและเผานั่งยางนั้น

141863

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ญาติมีการเชิญวิญญาณของนางสาวมินมิน ข่าง ที่เกิดเหตุในช่วงเช้า กลับมาที่บ้านเช่าป้าเเจ๋ว ม.11 บ้านคลองกลาง ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

507127

เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เบิกตัวนายบุญหลาย ผู้ก่อเหตุ จากห้องคุมขัง เพื่อมาทำการสอบปากคำ โดยระหว่างนายบุญหลาย เดินมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ห้องสอบสวนนั้น ทีมข่าวได้สอบถามนายบุญหลายว่าเมื่อคืนสภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง นอนหลับไหม นายบุญหลายก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ส่ายหน้า จากนั้น พนักงานสอบสวนก็ได้มีการสอบปากคำนายบุญหลายใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างให้ปากคำ นายบุญหลายก็มีสีหน้าที่นิ่งเฉย

555567

หลังจากสอบปากคำเสร็จ นายบุญหลาย เปิดใจว่า ตัวเองอยากขอโทษชาวเมียนมาทุกคนที่อยู่ในโรงงานเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวเองขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เพราะตัวเองทำคนเดียว พ่อแม่และครอบครัวของตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ตัวเองไม่อยากให้ฝั่งคู่กรณีไปขู่ทำร้ายครอบครัวของตัวเองที่อยู่ในโรงงาน อยากฝากถึงพ่อแม่ว่า ให้ทั้ง 2 คนดูแลสุขภาพตัวเองด้วย ตัวเองจะชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำไว้เอง แล้วตัวเองก็ขออโหสิกรรมให้ผู้เสียชีวิตด้วย ให้เขายกโทษให้ ตัวเองขอยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้ตั้งใจทำให้เขาเสียชีวิต

นายบุญหลาย เล่าต่อว่า ที่ตัวเองเห็นเงาดำเดินวนเวียนในบ้าน ตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุ ตัวเองก็เห็นเงาดำติดต่อกันมาอีกหลายวันนั้น ส่วนหนึ่งตัวเองก็อาจคิดไปเองก็ได้ เวลา 14.00 น. ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหา ไปส่งเข้าเรือยจำอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

473252

นางบุ๋ม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ภรรยาของนายบุญหลาย ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาที่ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อมาเยี่ยมสามี ปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากกังวลว่าแม่และพี่สาวของนายบุญหลาย สามีจะไม่ปลอดภัย เปิดเผยว่า วันนี้ตัวเองเดินทางมาปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยกลัวแม่ พี่สาว และหลานสาวของนายบุญหลายได้รับอันตราย เนื่องจากตัวเองได้รับข้อมูลมาว่ากลุ่มชาวเมียนมาที่ทำงานโรงงานเดียวกับผู้ตาย เขาขู่จะมาฆ่าครอบครัวของสามีตีวเองอีกด้วย ตัวเองจึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมว่าผู้ต้องหาก่อเหตุแต่เพียงผู้เดียว พ่อแม่และครอบครัวของเขาไม่เกี่ยว

แล้วทางฝั่งผู้เสียชีวิตก็เรียกร้องจะเอาค่าทำศพกับครอบครัว 200,000 บาท ตัวเองจึงขอยืนยันว่าทางครอบครัวตัวเองไม่มีเงินให้เขาถึงขนาดนั้น ครอบครัวตัวเองก็จะเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามกำลัง ตัวเองจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกล่าวกับชาวเมียนมาฝั่งผู้ตายว่าคนผิดเขายอมรับผิดแล้ว ไม่ต้องมาข่มขู่ฆ่าคนในครอบครัวตน

ในช่วงค่ำของวันที่เกิดเหตุ แต่เป็นช่วงก่อนไปงมหาศพ ตอนที่นายบุญหลาย สามีตัวเองไปกินหมูกระทะกับตัวเองและพี่สาวของเขานั้น ตัวเองก็เห็นว่านายบุญหลายมีสีหน้าที่ปกติ ไม่ได้มีพิรุธ ยืนยันว่าช่วงเที่ยงของวันที่ 15 พ.ย. หลังก่อเหตุ 1 วัน ตัวเองได้ไปทำบุญกับสามีที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว ตอนนั้นเห็นว่าเหตุการณ์ปกติ ไม่มีพิรุธ เพราะครอบครัวตัวเองก็ชอบไปทำบุญบ่อย ๆ กรณีที่นายบุญหลายให้การกับตำรวจว่าหลังก่อเหตุเขาเห็นเงาดำ เดินวนเวียนอยู่ในบ้านในช่วงกลางคืนนั้น ตัวเองก็ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน

เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองก็ให้สามีรับกรรมในสิ่งที่เขาก่อไว้ ส่วนลูกในครรภ์ 7 เดือน หลังจากนี้ตัวเองก็จะดูแลให้ดีที่สุด จะไม่ให้เขาทำเหมือนพ่อของเขา ส่วนประเด็นที่ว่าสามีเคยแอบชอบสาวเมียนมาคนดังกล่าวหรือไม่นั้น ตัวเองก็ไม่ทราบมาก่อน สำหรับเรื่องประกันตัว ต้องปรึกษาทางครอบครัวอีกครั้ง ตอนนี้ตัวเองก็ทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว

701776

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่บ้านเช่าป้าเเจ๋ว ม.11 บ้านคลองกลาง ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นางสาวเมียนเมียนเอ อายุ 28 ปี พี่สาวคนโตของผู้เสียชีวิต บอกผ่านล่ามว่าวันนี้ตนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งเเต่เช้าเพื่อไปรับศพน้องที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่เนื่องจากเอกสารยังไม่พร้อมเเละติดวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ยังอยู่ในขั้นตอนของชันสูตรศพ ตนจึงได้เดินทางกลับมาที่ห้องเช่าคาดว่าจะมีการไปรับศพอีกครั้งในวันจันทร์ ต้องรอทางตำรวจ สภ.กบินทร์บุรีแจ้งอีกครั้ง จะมีการสวด 1 คืน ก่อนจะฌาปนกิจที่วัดคลองกลางในวันอังคารที่ 23 พ.ย.64 งานวันเผายังไม่ได้เเจ้งกับทางครอบครัวที่ประเทศเมียนมาเลย

176764

ตอนนี้สภาพจิตใจของตนก็ยังเหมือนเดิม คือยังทำใจไม่ได้ มองไปทางไหนก็เห็นเเต่หน้าของน้องสาวตลอด ตั้งเเต่เมื่อวานที่รู้ว่าน้องเสียชีวิต ตนก็ไม่ได้ฝันถึงน้องสาว ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเห็นเงาสีดำมาหา ตนก็ไม่เห็นว่าน้องสาวจะกลับมาหาตน เเต่มีเพื่อนที่อยู่กรุงเทพฯ โทรมาบอกว่าน้องสาวของตนไปหา บอกว่าร้อนมาก ไม่มีเสื้อผ้า รองเท้าใส่ เพื่อนของตนบอกว่าจะไปซื้อให้ แต่ตนปฏิเสธไปและบอกว่าจะซื้อให้น้องสาวเอง ก่อนจะเข้ามาที่ห้องเช่าเมื่อช่วงเย็นตนได้เเวะซื้อเสื้อผ้า เป็นเสื้อเเขนยาวสีชมพู เเละกางเกงยีนส์ มีเชือกผูกเอวแบบนี้ที่น้องชอบ พร้อมทั้งซื้อลิปสติกสีแดง ที่เขียนคิ้ว เเละแป้งทาหน้า รวมทั้งรองเท้าแตะให้น้อง ทั้งหมดนี้จะเผาไปพร้อมกับร่างของน้องในวันอังคารนี้ ส่วนเมื่อวานที่ผู้ต้องหามาขอโทษ วันนี้ตนก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด ส่วนเรื่องจะทำงานต่อที่นี่ไหม ต้องรอปรึกษากับทางพี่สาวอีกครั้ง ขอให้จบงานศพของน้องก่อน

808385

ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ขออนุญาตนางสาวเมียนเมียนเอ เพื่อขอเข้าไปดูภายในห้องพักหมายเลข 3 เมื่อเดินเข้าไปภายในห้อง พบเตียงนอน 2 เตียงทำจากไม้ เตียงเเรกเป็นเตียงของพี่สาวคนโตเเละสามี ส่วนอีกเตียงเป็นเตียงของน้องสาว มีการนำข้าวสารใส่จาน พร้อมกับวางเงินสดไว้ทั้งหมด 165 บาท เพื่อให้น้องสาวได้ใช้เงินต่อในโลกหน้า มีการนำชุดกะเหรี่ยงสีเเดงสด ผ้าผูกเอววางไว้บนเตียง มีข้าว 1 จาน ไข่เจียว พร้อมน้ำดื่มวางไว้ ซึ่งจากการสอบถามจะมีการนำอาหารมาวางไว้ให้ 3 มื้อ จนกว่าจะถึงวันเผาศพของน้องสาว

115871

มีใบไม้สีเขียวสด 1 ใบ วางไว้บนหมอนหัวเตียง จากการสอบถามพบว่าเป็นใบไม้ที่มีการเด็ดมาจากบริเวณป่าสวนยูคาลิปตัส จุดที่นายบุญหลายเผาศพของนางสาวมินมินข่าง โดยวานนี้พี่สาวทั้ง 2 คนเเละญาติเพื่อน ๆ ได้มีการไปเก็บเศษอัฐิ เชิญวิญญาณของนางสาวมินมิน ข่าง กลับมาที่ห้องเช่าเเห่งนี้ มีการนำใบไม้ในจุดเกิดเหตุกลับมาด้วย

นอกจากนี้ นางสาวเมียนเมียนเอ ให้ทีมข่าวดูข้าวของของมินมินข่าง ผู้ตาย ซึ่งมีทั้งเสื้อผ้า หน้ากากอนามัย สมุดจดบันทึกบทสวดที่เป็นลายมือของมินมินข่าง พี่สาวบอกว่ามีสิ่งของเเทนใจจากน้องสาว 1 อย่าง ที่ตนจะเก็บรักษาไว้อย่างดี คือนาฬิกาข้อมือของน้องสาว "ตนไม่ได้เป็นคนซื้อของชิ้นนี้ให้น้องสาว เเต่น้องสาวเป็นคนซื้อเอง เเละรักนาฬิกานี้มาก ใส่เป็นประจำ ตนจะเก็บไว้ดูต่างหน้าน้องสาว เเต่ถ้าน้องสาวมาหาหรือเข้าฝันเเล้วบอกว่าอยากได้นาฬิกา ตนก็พร้อมจะเผาไปกับร่างของน้องในวันอังคารนี้"

799299

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ร้านหมูกระทะ ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี นางนุชนาฎ สิงห์รี อายุ 45 ปี เจ้าของร้านหมูกะทะ เปิดเผยว่า ที่ร้านของตนมีกล้องวงจรปิดเพียงตัวเดียวบริเวณด้านในร้าน กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้ถึงเเค่ช่วง 4 วันที่ผ่านมาเท่านั้น วันนี้ไม่มีไฟล์ภาพเเล้ว

612115titled557675262365286101952189

ในวันที่ 14 พ.ย.64 ตามที่ผู้ต้องหาได้สารภาพว่ามีการพาภรรยาเเละพี่สาวมาทานหมูกะทะที่ร้านของตนนั้น ตนก็ไม่รับรู้ถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหา เนื่องจากวันนั้นเป็นวันอาทิตย์มีลูกค้าเข้าออกเยอะมากตั้งเเต่ช่วงร้านเปิดเวลา 15.30-22.00 น. ทำให้ตนไม่รู้ว่ามีกลุ่มของผู้ต้องหาเข้ามาทานหมูกระทะที่ร้านของตนตอนไหน ซ้ำโต๊ะในร้านอาหารก็เยอะมาก เป็น 100 โต๊ะ ตนจึงไม่ทันได้สังเกต บวกกับช่วงเวลาผ่านมา 1 สัปดาห์เเล้วด้วย

198053

ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นที่อำเภอกบินทร์บุรี ตนได้ทราบเเล้ว มองว่าเรื่องนี้ฝ่ายชายทำเกินกว่าเหตุ ไม่เห็นจะต้องถึงขั้นฆ่าน้องผู้หญิงเลย เเละรู้สึกว่าเสียชื่อประเทศไทยมาก เพราะเราเป็นคนไทยเเล้วไปกระทำกับคนต่างชาติแบบนี้

780076

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังวัดท่าระพา ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว พบกับพระอธิการสำราญ สันตติโต เจ้าอาวาสวัดท่าระพา จ.สระแก้ว ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 15 พ.ย. 64 ตัวเองเห็นนายบุญหลายและครอบครัวมาทำบุญถวายเพลที่วัดท่าระพาจริง จากที่เห็นใบหน้านายบุญหลาย ผู้ต้องหา ตัวเองก็จำใบหน้าเขาได้ แต่ตัวเองก็ไม่ได้รู้จักนายบุญหลายเป็นการส่วนตัว

615435

ตอนที่นายบุญหลาย และครอบครัวมาถวายเพรในวันดังกล่าวนั้น ตัวเองและพระลูกวัดอีก 3 รูป ก็ได้ให้พร จากนั้นก็มีการให้ทาน และนายบุญหลายพร้อมครอบครัวก็ได้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร รวมทั้งผู้ที่ล่วงลับ จากนั้นพวกเขาก็เดินทางกลับ ในวันดังกล่าว นายบุญหลายเขาก็ไม่ได้เข้ามาพูดคุยกับตัวเอง สังเกตสีหน้านายบุญหลายปกติ กรณีที่นายบุญหลาย เขาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาเห็นเงาดำเดินวนเวียนอยู่ในบ้านของเขาหลังเกิดเหตุ ตัวเองคิดว่าเป็นจิตวิญญาณของผู้ตายที่ยังไม่ไปไหนและยังอาฆาตนายบุญหลายอยู่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม