จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายสุรชาติ คนแข็ง อายุ 65 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2550 กระทำความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"
สืบเนื่องจากเมื่อ 14 ปีก่อน นายสุรชาติ ได้แอบมีความสัมพันธ์กับ น.ส.สวย (นามสมมติ) หลานสาวของภรรยาผู้ต้องหา ในขณะนั้น น.ส.สวย อายุประมาณ 14 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.ต้น ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย โดยทั้ง 2 คนได้มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเป็นเวลาประมาณ 6-7 เดือน โดยที่ภรรยาของผู้ต้องหาไม่ทราบเรื่อง
ต่อมาเมื่อช่วงปิดภาคเรียน น.ส.สวย ได้กลับมาพักอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ ที่กรุงเทพฯ ซึ่งภายหลังจากนั้น ผู้ต้องหาทราบเรื่องว่า น.ส.สวย ตั้งครรภ์ ผู้ต้องหาจึงได้วางแผนและเดินทางจาก จ.หนองคาย เพื่อมาพบ น.ส.สวย โดยได้เอานมผสมยาฆ่าแมลงให้ น.ส.สวยดื่ม
จนทำให้ น.ส.สวย ปวดท้องหนัก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้นำศพไปทิ้งไว้บริเวณที่ทิ้งของเก่าริมทางสาธารณะในพื้นที่ สน.หนองแขม
ล่าสุด วันที่ 19 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปหาบ้านญาติของผู้ก่อเหตุ จ.อุดรธานี ตามคำให้การของผู้ต้องหา โดยพบว่าบ้านของพ่อนายสุรชาติ ตั้งอยู่ที่หมู่ 11 ตำบลป่าโมง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
นายสังเวร อายุ 54 ปี น้องชายของผู้ก่อเหตุ พาทีมข่าวเดินไปดูคุณพ่อของผู้ก่อเหตุ ที่นอนป่วยอยู่บริเวณภายในบ้าน ก่อนที่ทางเจ้าตัวได้เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของตนมีด้วยกัน 5 คน ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ และลูกอีก 3 คน ตอนนี้แม่และพี่ชายคนโตเสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือแค่ตนกับพ่อของนายกอง วัย 94 ปี นอนป่วยติดเตียงเป็นโรคไตระยะสุดท้ายมานานกว่า 10 ปี ตนเองในฐานะลูกชายก็เลี้ยงดูด้วยตัวคนเดียวมาตลอด
นายสังเวร บอกว่า ตนยอมรับว่าตกใจและเพิ่งทราบข่าวจากทีมข่าว ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำแบบนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าจริง ๆ แล้ว ทางพี่ชายของตน คนก่อเหตุ ได้ออกจากย้านไปมีครอบครัวตั้งแต่เด็กช่วงประมาณ 14 ปี ตอนนี้นตนเองยังอยู่ ป.6 จำความได้แค่ว่าพี่ชายไปแต่งงานกับแฟนสาวที่ จ.หนองบัวลำภู หลังจากนั้นทางพี่ชายก็ขาดการติดต่อกับครอบครัวไป นาน ๆ จะกลับมาเยี่ยมพ่อเยี่ยมแม่สักครั้ง งล่าสุดที่ทางผู้ก่อเหตุกลับมาบ้านประมาณเมื่อช่วง 6 ปีก่อน
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือตำรวจนอกเครื่องแบบนำหมายศาลมาที่บ้าน ไม่เคยมีเอกสารเกี่ยวกับหมายศาลส่งมายังที่บ้านเช่นกัน ครอบครัวยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทางครอบครัวไม่รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง เรื่องคดีคงปล่อยให้เป็นไปตามกรรม ใครทำอะไรไว้ก็ชดใช้สิ่งที่ทำ เพราะครอบครัวเองก็ไม่มีเงินที่จะไปสู้คดี ขอตัดพี่ตัดน้อง
นางแมว อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุนั้นได้ออกจากหมู่บ้านไปนานแล้วตั้งแต่เด็ก ๆ นาน ๆ จะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ ผ่านมาประมาณ 10 กว่าปีแล้ว เท่าที่จำความได้ก็ไม่เคยเห็นหน้าของนายสุรชาติอีกเลย แม้กระทั้งงานศพของแม่เมื่อปี 2553 ทางเจ้าตัวเองก็ไม่ได้เดินทางกลับมาร่วมงาน ตอนนี้คนในพื้นที่เองก็จำหน้าเขาไม่ได้แล้ว
ส่วนตัวสลดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะเรื่องราวจริง ๆ ตนไม่ทราบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร แต่หากเป็นไปตามข่าวก็ค่อนข้างโหดเหี้ยม เหตุไม่คิดว่าเขาจะใจคอโหดร้ายขนาดนี้ ทั้งนี้ ในสมัยเด็กเขาเองก็เป็นคนคนดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครในหมู่บ้านเลย สุดท้ายตนในฐานะเพื่อนบ้านก็แอบสงสารครอบครัวคนก่อเหตุ
