กรณีเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงกันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ราย และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 คน ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านพักหลังหนึ่ง อ.เมือง จ.พัทลุง
ทั้งนี้ภายหลังทราบชื่อผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ สิบเอก โชคชัย ปานนุ่ม อายุ 53 ปี ทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 4309 ปัตตานี และนายสุธรรม หนูนุ่น อายุ 52 ปี ทั้งคู่เป็นชาวต.หารโพธิ์ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อด.ต.ทวี วรานุศิษฎ์ ข้าราชการบำนาญ ชาวต.ท่ามิหรำ อ.เมือง จ.พัทลุง
ทั้งนี้ในเบื้องต้นสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้มาจากการทวงหนี้นอกระบบ เป็นลักษณะเงินกู้ทองคือ การปล่อยทอง และให้ลูกหนี้ผ่อนด้วยเงินสด
ล่าสุดวันที่ 17 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ จ.พัทลุง ในวันนี้มีการประชุมหารือกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งชุดพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองจังหวัดพัทลุง และชุดสืบสวนจังหวัดพัทลุง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ต้องสืบสวนอย่างละเอียด เพราะทั้ง 2 ฝ่ายให้การขัดแย้งกัน ซึ่งทางตำรวจยังไม่สามารถสรุปคดีได้ จึงต้องเร่งรัดดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
โดยพล.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง และหัวหน้าทีมที่ประชุม กล่าวว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ได้แก่ น.ส.สุทธิมา ทรงเดชะ กลุ่มผู้เสียชีวิตที่มาทวงหนี้ แจ้งข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหะสถาน โดยมีอาวุธ ร่วมกันมีอาวุธปนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ร่วมกันเป็นผู้ทวงถามหนี้ กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ใช้ความรุนแรงหรือกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหาย แก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของลูกหนี้หรือผู้อื่น
และจับกุมนายทวีศักดิ์ วรานุศิษฎ์ ลูกชายเจ้าของบ้าน ลูกหนี้ โดยตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา อย่างไรก็ตาม คดีนี้จะคลี่คลายโดยเร็ว เพราะใช้หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ และผลตรวจดีเอ็นเอต่าง ๆ
ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง ในเขตพื้นที่ ต.ท่ามิหรำ อ.เมือง จ.พัทลุง จึงได้พบกับนางอารมณ์ วรานุศิษฎ์ ภรรยาของผู้บาดเจ็บ ขณะที่ภายในบ้านข้าวของยังกระจัดกระจาย และมีการล้อมพื้นที่เป็นวัตถุพยาน ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยเพื่อขอข้อมูล จากนั้นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปลายสายแจ้งกับนางอารมณ์ ว่าอย่าให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว
นางอารมณ์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนอยู่ภายในบ้าน กำลังสอนหนังสือเด็กนักเรียนผ่านออนไลน์ จ่าวีก็พักอยู่ในบ้าน ส่วนแก๊งทวงหนี้มากัน 5 คน พูดคุยกับลูกชายและลูกสะใภ้ ตนได้ยินเสียงโวยวายจึงออกมาเตือน เพราะกำลังสอนหนังสือ จากนั้นน.ส.ดิว ก็เข้ามาพลักตน ตนก็เซไม่ได้ล้มหรือบาดเจ็บ แล้วตอนนั้นลูกชายก็โมโหว่าน.ส.ดิว ทำแบบนี้กับตนทำไม ตอนนั้นจ่าวี ก็เข้ามาช่วยเจรจา
หลังจากนั้นตนก็เดินหันหลังเข้าบ้าน เข้าไปสอนหนังสือ ไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงเปิดประตูมาดูเห็นจ่าวีถูกยิง ตนก็ร้องตะโกนเรียกให้คนช่วย ตอนนั้นก็ไม่เห็นว่าใครเป็นอะไร เพราะตนขาดสติหมดแล้ว
"ตอนนั้นไม่ทราบจริง ๆ ใครยิง หลังเกิดเหตุการณ์ยอมรับว่ากังวลความปลอดภัยของลูกชาย เพราะฝ่ายเจ้าหนี้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ทราบมาว่ากลุ่มทวงหนี้ เคยอุ้มลูกหนี้รายอื่น ๆ มาแล้ว และลูกชาย ลูกสะใภ้ก็เคยถูกทำร้ายร่างกายด้วย ส่วนจ่าวีตอนนี้ยังบาดเจ็บสาหัส อยู่ห้องไอซียู รอการผ่านำกระสุนออกจากใบหน้า และยังไม่พ้นขีดอันตราย" ภรรยาของผู้บาดเจ็บ กล่าว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ สภ.เมืองพัทลุง พบกับน.ส.อมรรัตน์ สันตะโร หรือ เจ ลูกหนี้น.ส.ดิว พร้อมกับนางอารมณ์ วรานุศิษฎ์ อยู่ระหว่างการยื่นเรื่องประกันตัวนายเอ็กซ์ หรือ นายทวีศักดิ์ วรานุศิษฎ์ ผู้ต้องหายิงแก๊งทวงหนี้
โดยน.ส.เจ ให้ข้อมูลสั้น ๆ กับทีมข่าวว่า ตนเป็นหนี้น.ส.ดิว ประมาณ 8 หมื่นบาท แต่กลับพาพวกมาทวงหนี้จากตนและสามี ในจำนวน 180,000 บาท ซึ่งดอกเบี้ยเกินกว่าเท่าตัว แต่ตนก็ยินยอม เพราะจะขอผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน แต่ฝ่ายน.ส.ดิวไม่ยินยอม จนเจรจากันไม่ลงตัวเกิดปากเสียงกัน ตนยืนยันฝ่ายเจ้าหนี้ลั่นไกใส่พ่อของสามีจนได้รับบาดเจ็บก่อน จากนั้นเกิดเหตุชุลมุน
"ตอนนี้รู้สึกหวาดกลัวมาก กลัวว่าทางฝ่ายเจ้าหนี้จะมาทำร้ายครอบครัว พ่อ แม่ เพราะเคยถูกกลุ่มนี้ทำร้ายแล้วครั้งหนึ่ง และตอนนี้ทราบจากเพื่อน ๆ พูดต่อ ๆ กันมาว่า ฝั่งเจ้าหนี้จะไม่ยอมจบง่าย ๆ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยคุ้มครองครอบครัวด้วย" น.ส.เจ กล่าว
ทีมข่าวติดต่อไปทางครอบครัวของนายสุธรรม หนูนุ่น ผู้เสียชีวิต เพื่อขอสัมภาษณ์ แต่ครอบครัวได้แจ้งว่ายังไม่ขอให้ข้อมูล ครอบครัวอยู่ระหว่างรอศพที่นำไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาล เพื่อนำมาทำพิธีทางศาสนาในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.64) จริง ๆ แล้วลูกหนี้ติดหนี้เจ้าหนี้หลายรายในจ.พัทลุง กลุ่มเจ้าหนี้คิดจะรวมตัวกันไปทวงหนี้ แต่ในวันเกิดเหตุน.ส.ดิว กลับไปทวงหนี้ก่อนใคร
อย่างไรก็ตาม ตำรวจชุดสืบยังให้ข้อมูลกับทีมข่าวเพิ่มเติมว่า เคสนี้พบปลอกกระสุนถูกยิงมาจากอาวุธปืนชนิด 9 มม. 3 กระบอก เเต่ในที่เกิดเหตพบอาวุธปืนชนิด 9 มม.เเค่ 1 กระบอก ส่วนอีกกระบอกเป็นขนาด 11 มม. ยังไม่ได้ใช้งาน เพราะฉะนั้นจะต้องมีคนก่อเหตุหายไปอีก 2 คน พร้อมอาวุธปืน 2 กระบอก เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อตรวจดูวิถีกระสุนต่อไป