วันที่ 29 ต.ค. 61 ศาลอาญา รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ในความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร หน่วงเหนี่ยวกักขัง ในช่วงวันที่ 23 พ.ย. 2556 – 1 พ.
ค. 2557 โดยนายสุวิทย์กับพวกได้ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มีพฤติการณ์เป็นอั้งยี่ซ่องโจร
สั่งการกลุ่ม กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ หน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยปลุกระดม ยุยง ชักชวนประชาชน และแนวร่วมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส. เข้ายึดหน่วยงานและสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ใช้กำลังประทุษร้าย ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล, ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินรวม 8 รายการ มูลค่า 60,900 บาทสูญหาย
โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เป็นโทษหนักสุดให้จำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากให้การรับสารภาพจึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือคงจำคุก 1 ปี 6 เดือน นอกจากนี้ เห็นว่า นายสุวิทย์ได้วางเงินชดใช้ให้กับผู้เสียหายทั้ง 2 แล้ว ซี่งผู้เสียหายทั้ง 2 ไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีต่อไป แต่เห็นว่านายสุวิทย์ไม่เคยได้รับโทษคดีอาญามาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
ด้าน
นายสุวิทย์ ระบุว่า ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความเป็นธรรม หลังจากนี้ตั้งใจจะกลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ และตั้งใจทำหน้าที่ของพระสงฆ์ต่อไป โดยเตรียมจะบวชในวันที่ 1 ธ.ค. 61 ส่วนเรื่องการเมือง ขอให้เป็นหน้าที่ฝ่ายการเมืองหรือนักการเมือง และปฏิเสธตอบเรื่องการออกมาเคลื่อนไหวการเมืองหลังจากนี้
ขณะที่
ร.ต.ท.สมคิด เชยกมล อดีตนายตำรวจสันติบาล ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุ (10 ก.พ. 57) ตนเป็นตำรวจสันติบาล ได้รับมอบหมายให้ไปสืบข่าวหาข้อมูลม็อบชาวนา เมื่อชาวนาเคลื่อนขบวนมาที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ในเรื่องเกี่ยวกับคดีรับจำนำข้าว ขณะนั้นมีกลุ่มการของนายสุวิทย์ ยืนอยู่บริเวณนั้นเช่นเดียวกัน เมื่อตนเองสืบหาข่าวเสร็จเตรียมจะกลับ ก็เจอกับการ์ดของกลุ่ม กปปส. เข้ามาล็อกตัว ด.ต.ว ชิรพงศ์ ลูกน้องของตนจนล้มลง ตนก็ถูกล็อกตัวเข้าไปด้วย และได้ถูกการ์ดปิดตา เอาถุงคลุมหัว จากนั้นการ์ดสอบสวนพวกตน เมื่อการ์ดเอาโทรศัพท์ของตนไปดูพบว่าเป็นตำรวจสันติบาลนอกเครื่องแบบตน จึงถูกการ์ดซ้อม โดยการตี และโดยรุมจนบาดเจ็บ ซึ่งแพทย์ได้เย็บใบหน้า ปาก จมูก เอ็กซเรย์พบซี่โครงหัก 2 ซี่ ไตฉีก มีเลือดไหลที่อวัยวะภายใน ใช้เวลาในการรักษาตัว 1 เดือน
ร.ต.ท.สมคิด กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่มีการเข้ามาเยียวยาตนเองแต่อย่างใด และขอยืนยันว่าไม่เคยได้รับเงินจากนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระเลย ซึ่งส่วนตัวก็ยังงง เพราะในข่าวระบุว่า เงิน 40,000 บาท ที่มีการชดใช้ให้ตนมานั้น ตนไม่เคยได้รับแต่อย่างใด
ส่วนในกรณีที่ศาลตัดสินให้อดีตพระพุทธะอิสระรอลงอาญานั้น ตนคิดว่าอำนาจศาล ตนไม่กล้าล่วงละเมิด ส่วนเรื่องที่อดีตพระพุทธะอิสระจะบวชนั้น ตนก็มองว่า แล้วแต่เขา ถ้าอยากจะบวช ตนไปห้ามไม่ได้ แต่ตนกล้าพูดว่าเขาคงไม่สามารถไปทำอาชีพอื่นได้อีก
ส่วนอดีตพระพุทธะอิสระจะออกมาขอโทษตนหรือไม่นั้น ตนขอถามกลับว่า เขาจะมาหรือ เพราะขนาดเงิน ยังไม่ชดใช้ตนเลย แต่อยากให้ดูด้วยว่า ในวันที่เกิดเหตุ พระและโทรศัพท์มือถือเครื่องละ 20,000 บาทก็สูญหาย รวมถึงเงินที่ตนเองพกไป ก็หายไปเช่นกัน ซึ่งอยากให้ออกมารับผิดชอบ แต่หากไม่ออกมา ตนก็ถือว่าเป็นเวรกรรมที่ทําให้พบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
นอกจากนี้ ดาบตำรวจอีกนาย ตนก็ยังติดต่อกันอยู่ และคิดตรงกันว่า ต้องการให้มาเยียวยากันบ้าง เพราะผู้ชายทำผิดต้องกล้ารับผิด สุดท้ายหากอดีตพระพุทธะอิสระจะมาเยียวยา ตนเองจะให้อภัย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมาเยียวยา จึงอยากให้สื่อฯ ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ด้วย