ล่า 2 ผัวเมียเล่นเซ็กซ์ข้างถนน สื่ออึ้งเจอกางเกงสยิวข้างต้นยาง ผู้คนผวาอาเพศ (คลิป)

กรณีฝนตกหนักและพายุพัดแรงในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ต้นยางนาสูงใหญ่อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่อยู่ตลอดแนวสองข้างถนนเชียงใหม่-ลำพูน (สายเก่า) โค่นล้มทับบ้านเรือนในบริเวณนั้น

ทั้งนี้ เทศบาล ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้สำรวจความเสียหายในเบื้องต้น พบว่าต้นยางนาอายุกว่า 100 ปี ล้มจำนวน 10 ต้น ความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 100 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางโดยเฉลี่ยประมาณ 2 เมตร ต้นไม้ใหญ่ริมถนนล้มจำนวน 2 ต้น เสาไฟฟ้าแรงสูงเสียหายจำนวน 41 ต้น เสาไฟฟ้าแรงต่ำเสียหายจำนวน 8 ต้น บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 67 หลังคาเรือน ซึ่งในจำนวนนี้เสียหายหนัก 5 หลังคาเรือน

นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บกิ่งไม้โค่นใส่จำนวน 1 ราย ปัจจุบันเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สารภี แล้ว และยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เสียหายเช่นกัน รวมมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท

โดยจุดที่ได้รับความเสียหาย ตั้งแต่ศาลหลักเมืองเชียงใหม่ – ลำพูน ไปจนถึงบริเวณ รพ.สารภี ประมาณ 2 กม. จากพื้นที่ที่มีการปลูกต้นยางนาทั้งหมด 10 กม. ตั้งแต่ศาลหลักเมืองเชียงใหม่ – ลำพูน จนถึง ต.ท่าศาลา จ.เชียงใหม่ แต่ที่ทำให้ชาวบ้านพากันขวัญเสียคือการพังถล่มของ "ศาลหลักเมืองเชียงใหม่ – ลำพูน" ที่ตั้งอยู่ระหว่างหมู่ 5 บ้านปากกอง ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และหมู่ 1 บ้านอุโมงค์ ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพ่อแม่พี่น้องทั้ง 2 จังหวัดมาก ๆ

ล่าสุดวันที่ 3 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าสภาพต้นยางนาที่โค่นล้มจำนวนมากตลอดเกือบ 2 กม. จากทั้งหมด 10 กม. ทำให้การจราจรติดขัด บางช่วงต้องปิดถนน และให้ใช้ทางเบี่ยง เนื่องจากรากต้นไม้ที่ยกขึ้น ทำให้ถนนแตกกระจาย

แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดแนวที่มีต้นไม้ล้ม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เร่งนำเครื่องจักรเข้าช่วยเหลือ ซึ่งต้นยางนาทั้งหมดที่มีการตัดแต่งแล้ว จะถูกวางไว้ตามไหล่ถนน และปล่อยให้ย่อยสลายตามธรรมชาติ เนื่องจากต้นยางนี้เป็นของส่วนรวม หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่สามารถเอามาใช้ได้ เว้นแต่ในอนาคตจะมีการปรึกษาหารือกันว่าสามารถนำไปทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอะได้บ้าง

เมื่อทีมข่าวเข้าไปในพื้นที่ นายคณิตศักดิ์ พิสิฐกุลวรโชติ อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่ดูแลศาลหลักเมืองเชียงใหม่ – ลำพูน ให้ข้อมูลว่า ตรงจุดนี้มีความเสียหายหนัก 3 ส่วน ได้แก่ 1.ศาลาพระศรีสองเมือง 1 หลัง เสียหาย 100 เปอร์เซ็นต์ 2.เศียรขององค์พระศรีสองเมืองเกือบขาด เนื่องจากโดนศาลาทับ ตอนนี้ต้องเอาขี้ผึงอุดไว้เพื่อรอการบูรณะซ่อมแซม และ 3.ศาลพ่อปู่แดนเมือง 1 หลัง เสียหาย 50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากโดนสายไฟที่เกิดจากต้นไม้โค่นมาโดนเสาไฟ และทำให้สายไฟพาดมาเกี่ยวกับศาลจนล้มระเนระนาด

ในฐานะคนเฒ่าคนแก่ในพื้นที่ว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พายุถล่มและทำให้ต้นยางอายุกว่า 100 ปี โค่นล้มจำนวนมาก ศาลหลักเมืองพังยับแบบนี้นั้น มาจากเหตุอาเพศ เนื่องจากชาวบ้านไปพบคลิปความยาว 41 วินาที ที่ปรากฏเป็นวัยรุ่นชาย-หญิงคู่หนึ่งมาตั้งกล้องถ่ายคลิปขณะร่วมเพศกันตรงฟุตพาทริมถนนที่มีต้นยางนาเรียงรายอยู่แบบไม่อายฟ้าอายดิน บางช่วงมีการใช้ต้นยางเป็นที่จับขณะร่วมเพศ และบางช่วงก็เข้าไปกระทำกันในศาลาริมถนน ซึ่งชาวบ้านเรียกพฤติกรรมอันโจ่งครึ่มนี้ว่า “ขึดบ้านขึดเมือง” การกระทำในสิ่งที่เป็นอาถรรพ์ เสนียด จัญไร อัปมงคล

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าครั้งแรกที่ได้ดูคลิปก็รู้สึกหดหู่และช็อกมาก ๆ เพราะถนนเส้นนี้เป็นถนนสายวัฒนธรรม มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เชื่อว่าทุกจุดตลอดทางล้วนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เพราะฉะนั้นหากมีคนมาแสดงพฤติกรรมอนาจารแบบนี้ ชาวเชียงใหม่โดยเฉพาะคนในพื้นที่ก็ต่างรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน แม้เหตุการณ์นี้บางคนจะมองว่าเป็นภัยธรรมชาติ ตนจึงเชื่อว่าเกิดอาเพศ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลปกปักรักษากำลังลงโทษคนที่กระทำอนาจารด้วยการนำพาพายุลมฝนเข้ามา ซึ่งผลกระทบทั้งหมดเกิดขึ้นกับชาวบ้านที่ไม่ได้ทำผิดอะไร

"ยิ่งทำให้ศาลหลักเมืองพังแบบนี้ ทุกคนก็ยิ่งรับไม่ได้ แถมยังโกรธด้วย ผมจึงอยากจะถามกับคู่หนุ่มสาวในคลิปว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ได้ประโยชน์อะไร และอยากให้หยุดการกระทำแบบนี้ เพราะมันไม่มีผลดีกับใครเลย ผมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนตามความเชื่อของชาวบ้านนั้น หลังจากนี้ก็จะทำพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ต้องมีการคุยกันอีกทีว่าจะจัดบริเวณศาลหลักเมือง หรือจุดที่เกิดเหตุตามคลิป" นายคณิตศักดิ์ กล่าว 

จากนั้นทีมข่าวย้อนกลับไปจุดที่ปรากฎในคลิป โดยต้นยางนาที่คู่ชายหญิงใช้จับนั้นเป็นต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 25 ซม. ในป่ารกข้างทางถัดออกไปประมาณ 10 เมตร ยังพบกางเกงยีนส์คล้ายกับตัวที่ชายคนในคลิปใส่กองอยู่ 1 ตัว และหน้ากากอนามัยสีฟ้าคล้ายกับหญิงคนในคลิปใส่ แขวนกิ่งไม้อยู่ 1 ชิ้น พร้อมกับมีที่คาดผมสีชมพูคาดอยู่กับเสากิโลเมตร 1 ชิ้นด้วย

นายณัฐกานต์ มูลก้อนแก้ว อายุ 23 ปี พ่อค้าซึ่งย้ายมาขายของอยู่ในบริเวณนี้ 3-4 เดือน กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็นคนมากระทำพฤติกรรมโจ่งครึ่มดังที่ปรากฏในคลิป แต่จากภาพที่ปรากฏในคลิปยืนยันได้ว่าเป็นจุดนี้แน่นอน เพราะทั้งต้นยางและบรรยากาศเป๊ะมาก เพียงแค่ทั้งคู่อาจจะมาทำกันตอนกลางดึก อาศัยช่วงที่ไม่มีคนหรือรถสัญจร ส่วนตัวหลังได้ดูคลิปก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะชาวบ้านเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ จึงมองว่าวิญญาณคนตายน่าจะไม่พอใจที่คู่หนุ่มสาวไปทำพฤติกรรมเช่นนั้น ก็เลยเกิดอาเพศขึ้นหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้สอบถามความคืบหน้าไปยัง พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.สภ.สารภี ให้ข้อมูลว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าคลิปดังกล่าวมีการเผยแพร่ไปเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา และได้ทำคลิปในลักษณะนี้หลาย ๆ พื้นที่ หากมองในทางวิทยาศาสตร์ ก็คงไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์พายุหรือต้นยางโค่น แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจ เจ้าหน้าที่ ปอท. ก็จะรวบรวมหลักฐานและเร่งตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวก็ถือว่ามีความผิด 2 ข้อ คือ 1.ฐานอนาจารในที่สาธารณะ และ 2.พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เบื้องต้นสิ่งที่ต้องแก้ปัญหาเป็นอันดับแรกคือเรื่องน้ำและไฟฟ้าให้กับชาวบ้าน

นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทรายจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบกับความเชื่อของชาวบ้าน และทำให้จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองวัฒนธรรมประเพณี เสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นคลิปที่ถ่ายนานแล้วหรือเพิ่งถ่ายก็ตาม โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าจุดที่ถ่ายคลิปดังกล่าว น่าจะอยู่ริมถนนช่วงบริเวณหน้าหมวดการทางสารภีในอำเภอสารภี เพราะมีจุดสังเกตค่อนข้างชัดเจน ทั้งนี้เตรียมนำหลักฐานยื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อทำให้เป็นกรณีตัวอย่าง และป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ