
กลายเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั่วโลกจับตามอง และดูเหมือนจะลงเอยได้ดีเหนือความคาดหมายที่หลายๆ คนคิดไว้ สำหรับการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา กับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซา ทางตอนใต้ของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมาก ซึ่งเป็นไปอย่างราบรื่น และจบลงด้วยการที่ผู้นำของทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลง ว่าด้วยการยึดมั่นต่อกระบวนการสันติภาพอย่างยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี (อ่านเพิ่มเติมที่ : วินาทีประวัติศาสตร์ ‘ทรัมป์-คิม’ จับมือ เชื่อหารืออย่างราบรื่น / เปิดข้อตกลง ‘ทรัมป์-คิม’ มุ่งปลดอาวุธนิวเคลียร์-สร้างสันติในคาบสมุทรเกาหลี)
ล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงสหรัฐอเมริกาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) ได้กล่าวในทวิตเตอร์ส่วนตัวซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า เกาหลีเหนือไม่ใช่ภัยคุกคามทางด้านนิวเคลียร์อีกต่อไป ทั้งยังบอกว่าการพบกับคิมจองอึนในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และเป็นไปในเชิงบวกอย่างมาก
Before taking office people were assuming that we were going to War with North Korea. President Obama said that North Korea was our biggest and most dangerous problem. No longer – sleep well tonight!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 13 มิถุนายน 2561
Just landed – a long trip, but everybody can now feel much safer than the day I took office. There is no longer a Nuclear Threat from North Korea. Meeting with Kim Jong Un was an interesting and very positive experience. North Korea has great potential for the future!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 13 มิถุนายน 2561